10 แบงก์โกยกำไร 2 แสนล้านปี 65 ผิดหวัง 3 ธนาคารใหญ่ เชียร์ BBL

HoonSmart.com>> 10 ธนาคาร เปิดผลงานปี 65 ออกมาแล้ว มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.1% เทียบกับปี 2564  เกือบทุกแบงก์ เติบโต ยกเว้น ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) มีกำไรสุทธิ 35,769 ล้านบาท แย่ลงถึง 6% และเป็นธนาคารแห่งเดียวที่ตั้งสำรองเพิ่มขึ้นถึง 28.73% เป็น 51,919 ล้านบาท ภาพรวม 3 ธนาคารใหญ่ พลิกล็อก ทำตลาดหุ้น 20 ม.ค. แตกตื่นเทกระจาดกลุ่มแบงก์ ลามไฟแนนซ์ สถาบันไทยถล่มยับ 5,356 ล้านบาท ต่างชาติทิ้งหนัก 2,874.83 ล้านบาท  บล.ทิสโก้ ยังคงชอบ BBL ให้ราคา175 บาท แนะซื้อ BAY ส่วน KBANK ให้ถือ มูลค่าเหมาะสม 166 บาท   

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ในปี 2565  ยังคงมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นตามการขยายสินเชื่อและดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วนรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง ทุกธนาคารบริหารธุรกิจภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจในปี 2566  SCB ตั้งเป้าหมายสินเชื่อ โต 5-8% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเติบโตมากกว่า 3.5% รายได้เติบโตมากกว่า 10% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ราว 40% กลางๆ ส่วนอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเดรดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่ออยู่ที่ 1.20-1.40%

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ ยังคงมีมุมมองเชิงบวก BBL คงคำแนะนำ “ซื้อ” และเป็นหุ้น Top pick ให้ราคาเป้าหมาย 175 บาท โดยมองผลประกอบการที่น่าประทับใจ NIM ที่แข็งแกร่งจะเป็นตัวชับเคลื่อนรายได้ไปตลอดปี 2566 แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยก็ตาม ส่วนการขาดทุนใน VTPL ควรที่จะลดลง เปลี่ยนเป็นกำไรในไตรมาสถัดไป และแม้ว่า B8L จะรักษา Credit Cost ไว้ในระดับสูง แต่ก็ไม่น่าจะทำให้แนวโน้มการพื้นตัวของกำไรลดลง งบดุลที่แข็งแกร่งขึ้นจะช่วยรองรับผลประกอบการในปี 2566

นอกจากนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” BAY แม้ผลประกอบการไตรมาส 4/65 ซึ่งเติบโต 16% (Yoy, -8% qoq) ต่ำกว่าประมาณการของเราและ consensus 9-10% เนื่องจากต้นทนเครดิตเพิ่มขึ้นและ non-NII ลดลง แต่ยังทำได้ดีในการรักษาต้นทุนด้วยค่า 0pex ที่เพิ่มขึ้นเพียง 2% Q0Q  คงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 40 บาท โดยรวมถือว่าดีและราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (ปัจจุบัน P/BV ที่ 0.68 เท่า และROE ประมาณ 8.8%)

ด้าน KBANK กำไรลดลงอย่างมากจากการตั้งสำองที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามหากมองไปข้างหน้า คาดว่าตันทุนเครดิดจะยังคงอยู่ในระดับสูง คำใช้จ่ายในการตั้งสำรอง 2.28 หมื่นล้านบาท ทำให้ ECL เพิ่มขึ้นเพียง12 หมื่นล้านบาท ไปที่ 1.34 แสนล้านบาท  คงคำแนะนำ “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 166 บาท จากแนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ที่ไม่ดีนัก ซึ่งทำให้ราคาหุ้นน่าจะ Underperform โดยเราชอบ BBL และ SCB มากกว่าในกลุ่มธนาคาร

ด้าน บริษัท เอสซีบี เอกซ์ (SCB) เปิดเผยผลการดำเนินงาน ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 37,546.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.5% โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 107,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% จากปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ บริษัทฯ ได้ตั้งเงินสำรองจำนวน 33,829 ล้านบาท ลดลง 19.5% จากปีก่อน

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ กล่าวว่า เป้าหมายของปี 2566 สินชื่อเติบโต 5-8% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเติบโตมากกว่า 3.5% รายได้เติบโตมากกว่า 10% และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ราว 40% กลางๆ ส่วนอัตราส่วนผลขาดทุนด้านเดคริตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อสินเชื่ออยู่ที่ 1.20-1.40% จำนวนลูกค้าที่ 35 ล้านราย แบ่งเป็น ธุรกิจธนาคาร 18 ล้านราย บริการทางการเงินเพื่อผู้บริโภคและดิจิทัล 13 ล้านราย และแพลตฟอร์มและสินทรัพย์ดิจิทัล 4 ล้านราย

ด้านนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า ธนาคารมีกำไร 33,698 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 56.1% สาเหตุหลักจากรายได้รวมจากการดำเนินงานที่ขยายตัว 8.3% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินเชื่อที่มุ่งเน้นคุณภาพ โดยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ลดลง 25.2% จากช่วงเดียวกันของปี ซึ่งยังคงรักษา Coverage ratio ในระดับสูงที่ 179.7% เทียบกับ 168.8% เมื่อสิ้นปี 2564

ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เปิดผลการดำเนินงานปี 2565 มีกำไรสุทธิ 35,770 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจำนวน 2,283 ล้านบาท หรือ 6.00%

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)  เปิดเผยว่า  เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ยังคงมีความเปราะบาง และยังคงต้องติดตามแรงกดดัน และอัตราดอกเบี้ยในประเทศที่ยังขยับขึ้นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ธนาคารและบริษัทย่อยจึงยังคงดำเนินธุรกิจตามหลักความระมัดระวังรอบคอบภายใต้ทิศทางภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.73% เป็นจำนวน 51,919 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพ (BBL) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2565 มีกำไรสุทธิ 29,305.59 ล้านบาท กำไรหุ้นละ 15.35 บาท เติบโตจำนวน 2,798.55 ล้านบาท คิดเป็น  10.56% จากปี 2564 ที่มีกำไรสุทธิ 26,507.04 ล้านบาทหรือ 13.89 บาทต่อหุ้น เฉพาะไตรมาสที่ 4/2565 มีกำไรสุทธิ 7,569.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,251.49 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 19.81% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 6,317.97 ล้านบาท แต่ลดลงเล็กน้อยเพียง 87.53 ล้านบาท จากไตรมาสที่ 3/2565 ที่มีกำไรสุทธิ 7,656,99 ล้านบาท

ด้านตลาดหุ้นวันที่ 20 ม.ค. 66 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ 1,677.25 จุด ลดลง 11.23 จุด หรือ-0.67%% มูลค่าการซื้อขาย 76,365.61 ล้านบาท  ปัจจัยกดดันหลักๆ มาจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ 3 แบงก์ใหญ่อย่าง BBL KBANK SCB กำไรออกมาต่ำกว่าคาดมาก ทำให้ Sentiment ภาพรวมดูไม่ค่อยดี และยังส่งผลกระทบทางจิตวิทยามายังกลุ่มไฟแนนซ์ด้วย  ส่งผลต่อแนวโน้มตลาดในสัปดาห์หน้า