หุ้นปิดบวก 3.04 จุด หลายปัจจัยเอื้อชะลอลงทุน ต่างชาติซื้อ 1.7 พันลบ.

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดบวก 3.04 จุด แกว่งแคบคล้ายตลาดภูมิภาค ชะลอลงทุนใกล้หยุดยาวช่วงตรุษจีน-เงินบาทแข็งค่ามาก-รอดูงบฯ-ไร้ปัจจัยกระตุ้น นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,715.01 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,105.04 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ Wait & See แนวรับ 1,680-1,670 แนวต้าน 1,690-1,695 จุด

ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 ม.ค.2566 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,688.48 จุด เพิ่มขึ้น 3.04 จุด หรือ +0.18% มูลค่าซื้อขาย 52,893.79 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,690.69 จุด ต่ำสุด 1,681.72 จุด

นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 1,715.01 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 310.54 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 1,105.04 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 299.43 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวในกรอบ จากนักลงทุนต่างชาติชะลอการซื้อหลังใกล้หยุดยาวช่วงตรุษจีน และเงินบาทแข็งค่ามาก ทำให้กังวลแบงก์ชาติจะออกอะไรมาหรือเปล่า เพราะถ้ามีการแตะเงินบาท ต่างชาติก็อาจขาย อีกทั้งชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน เริ่มที่กลุ่มธนาคาร ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะตื่นเต้น ดังนั้นตลาดจีงไม่มีปัจจัยใหม่มากระตุ้นให้ซื้อ หุ้นไทยจีงแกว่งในกรอบ

ด้านตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ติดลบหลังจากที่ขึ้นไปทำนิวไฮ ซึ่งผลสำรวจออกมาว่านักลงทุต่างชาติจะซื้อหุ้นในยุโรป และตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) หลังจากที่มีความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย แต่ตลาดเอเชีย และตลาดในยุโรป จะได้ประโยชน์จากจีนเปิดประเทศ ทำให้กองทุนเข้าซื้อหุ้นเก็บไว้ และขณะนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็มองเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลง การปรับอัตราดอกเบี้ยน่าจะเปลี่ยนเทรนด์ได้ ดังนั้นจีงมองกลุ่มโรงไฟฟ้าจะดี และหากเศรษฐกิจชะลอจะกระทบพวกสินค้าโภคภัณฑ์(Commodity)

ดังนั้นตอนนี้หุ้นที่เล่นกันก็เป็นหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, ค้าปลีก เพราะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะ Wait & See เพื่อรอดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในสัปดาห์หน้า ว่าจะส่งสัญญาณเงินบาทอะไรออกมาหรือไม่ ช่วงนี้คงจะต้องไปโฟกัสการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก่อน และสัปดาห์หน้ารอดู GDP ไตรมาส 4/65 ของสหรัฐ

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) ตลาดยังอยู่ในลักษณะ Wait & See โดยมีแนวรับ 1,680-1,670 จุด แนวต้าน 1,690-1,695 จุด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.66% มูลค่าซื้อขาย 1,808.48 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 74.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.67% มูลค่าซื้อขาย 1,738.98 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 862.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +0.23% มูลค่าซื้อขาย 1,656.10 ล้านบาท
BBL ปิดที่ 154.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,434.79 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ +0.36% มูลค่าซื้อขาย 1,333.99 ล้านบาท