หุ้นเช้านี้ลบ 2 จุด อัพไซด์จำกัด-ตลาดสหรัฐปรับลงกดดัน

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 2 จุด ยังมี Upside จำกัดระยะสั้น-แรงกดดันจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงหลังยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมต่ำกว่าตลาดคาด สะท้อนความเสี่ยงเกิดเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น เงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าถือพันธบัตรอย่างชัดเจน สะท้อนผ่านบอนด์ยีลด์ปรับตัวลง ตลาดเริ่มเปลี่ยนไปโฟกัสการเติบโตเศรษฐกิจมากขึ้น

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 19 ม.ค.2566 ณ เวลา 10.03 น. อยู่ที่ระดับ 1,683.44 จุด ลดลง 2.00 จุด หรือ -0.12% มูลค่าซื้อขาย 5,186.85 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองตลาดหุ้นวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,675-1,690 จุด ยังมี Upside จำกัดระยะสั้น รวมถึงมีแรงกดดันจากการปรับลงของตลาดหุ้นสหรัฐ หลังตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.-1.1%m-m และผลผลิตภาคอุตสาหกรรม -0.7% m-m ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด และติดลบเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันสะท้อนความเสี่ยงที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น เม็ดเงิน ไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าถือพันธบัตรอย่างชัดเจน สะท้อนผ่านอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่ปรับตัวลง ภาพรวมสอดคล้องกับที่ประเมินว่า ตลาดจะเริ่มเปลี่ยนโฟกัสจากเงิน เฟ้อไปที่การเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนี้เป็นต้นไป

ด้านปัจจัยในประเทศตลาดยังคงรอดผลประกอบการไตรมาส 4/65 ของกลุ่มธนาคารปลายสัปดาห์นี้ว่าจะออกมาใกล้เคียงคาดที่ -3% q-q, +20%y-y หรือไม่ ซึ่งจะมีผลต่อความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มกำไรฝั่ง Real Sector ที่จะเริ่มทยอย Preview และประกาศกำไรตามออกมาหนาแน่นในเดือน ก.พ. ระยะสั้นหุ้น Big Cap คาดแกว่งทรงตัว ลดความร้อนแรงจากช่วงก่อนหน้า ขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีแนวโน้มกำไรเด่นจะเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาด

5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
KBANK อยู่ที่ 151.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.66% มูลค่าซื้อขาย 480.24 ล้านบาท
AOT อยู่ที่ 74.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.33% มูลค่าซื้อขาย 366.94 ล้านบาท
PTT อยู่ที่ 33.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.75% มูลค่าซื้อขาย 360.23 ล้านบาท
BBL อยู่ที่ 153.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.65% มูลค่าซื้อขาย 338.08 ล้านบาท
KTBอยู่ที่ 17.40 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 207.33 ล้านบาท