“กองทุนต่างประเทศ” ฟื้นตัว Q4/65 ช้อนซื้อ “หุ้นโลก-จีน-เวียดนาม” แน่น

HoonSmart.com>> เงินไหลเข้า “กองทุนรวมต่างประเทศ” ไตรมาส 4/65 กว่า 1.8 หมื่นล้านบาท หลังหุ้นทั่วโลกร่วงแรง เข้าซื้อกองทุนประหยัดภาษีโค้งสุดท้ายของปี หนุนทั้งปี 65 เงินไหลเข้าสุทธิยังบวก 2 พันล้านบาท ด้าน “กองทุนหุ้นจีน-หุ้นเวียดนาม” ยังยอดนิยม

น.ส.ชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมกองทุนรวมต่างประเทศ (ไม่รวม Term Fund) ในปี 2565 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 9.2 แสนล้านบาท ลดลง 22.3% จากสิ้นปี 2564 แต่เพิ่มขึ้น 4.5% จากไตรมาสก่อน มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.8 หมื่นล้านบาท รวมสะสมสุทธิทั้งปีเป็นเงินไหลเข้าราว 2 พันล้านบาท กลุ่มกองทุนตราสารทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 6.9 แสนล้านบาท ลดลง 21.7% จากสิ้นปี 2021 มีเงินไหลเข้าสุทธิ 1.9 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปีเป็นกองทุนประเภทเดียวที่มีเงินไหลเข้าสุทธิที่มูลค่า 5.1 หมื่นล้านบาท

กองทุนหุ้นทั่วโลกกลับมามีเงินไหลเข้าจากกองทุนประหยัดภาษี

กองทุนหุ้นทั่วโลกกลับมามีเงินไหลเข้าสุทธิอีกครั้งที่มูลค่ากว่า 4 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นเงินจากกองทุนประหยัดภาษีทั้ง RMF และ SSF รวมมีเงินไหลเข้าสุทธิรอบปีที่ผ่านมามูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท มากเป็นอันดับที่ 3 แต่เนื่องจากผลตอบแทนเฉลี่ยในปีนี้อยู่ที่ -27.7% ทำให้มูลค่าทรัพย์สินโดยรวมยังหดตัวจากที่ 2564 มาอยู่ที่ 1.7 แสนล้านบาท หากไม่รวมผลกระทบจากผลตอบแทน จะมี organic growth ที่เกือบ 8% จากสิ้นปีก่อนหน้า

กองทุนหุ้นจีนมีเงินไหลเข้าสูงเป็นอันดับสองของรอบปี

ในช่วงท้ายของปีตลาดหุ้นจีนมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการผ่อนคลายมาตรการโควิดในประเทศ ทำให้การลงทุนหุ้นจีนฟื้นตัวส่งผลให้กองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5.3% ในไตรมาสสุดท้าย แต่ในรอบปียังคงติดลบ 27.2% โดยกองทุนที่เน้นหุ้น A Shares มีความผันผวนที่น้อยกว่าในรอบปี แต่ฟื้นตัวได้น้อยที่สุดโดยเฉลี่ยในไตรมาสสุดท้าย ในขณะที่กลุ่มหุ้นเทคโนโลยีของจีนจะฟื้นตัวได้ดีกว่า ในส่วนของเม็ดเงินลงทุน กองทุนหุ้นจีนกลับมามีแรงซื้อมากขึ้นในไตรมาสล่าสุดที่เกือบ 6 พันล้านบาท ซึ่งโดยส่วนใหญ่เป็นแรงเข้าซื้อในเดือนธันวาคมจากทั้งกองทุนประหยัดภาษีและกองทุนรวมทั่วไป รวมทั้งปีมีเงินไหลเข้าสุทธิสะสม 2.1 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดีกองทุนหุ้นจีนมีผลตอบแทนติดลบค่อนข้างมากในปีนี้ ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิหดตัว 17.7% จากปีที่แล้ว แต่ยังมี organic growth เป็นบวกที่ 12.3%

นักลงทุนแสดงความเชื่อมั่นต่อกองทุนหุ้นเวียดนาม

ตลาดหุ้นเวียดนามในปีนี้เผชิญปัจจัยลบค่อนข้างมาก โดยมีทิศทางของการปรับตัวลงตลอดทั้งปี ทำให้เป็นหนึ่งในกลุ่มกองทุนที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบมากที่สุดในรอบปีที่ -32.9% อย่างไรก็ดีนักลงทุนไทยยังคงแสดงความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในเวียดนามจากการเป็นกลุ่มกองทุนตราสารทุนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสูงสุดของปีด้วยมูลค่า 2.2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลเข้าไตรมาสสุดท้ายมูลค่า 8 พันล้านบาท ซึ่งไม่ได้กระจุกตัวเฉพาะจากกองทุนประหยัดภาษี ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมามีการเปิดกองทุนเวียดนามเพิ่ม 27 กองทุนทำให้ปัจจุบันมีกองทุนในกลุ่มนี้ทั้งหมด 41 กองทุนจากบลจ. 15 แห่ง รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.5 หมื่นล้านบาท

กองทุนเงินไหลเข้า-ออกสูงสุดรอบไตรมาส 4 ปี 2565

K Vietnam Equity มีเงินไหลเข้าสุทธิในไตรมาสสุดท้าย 2.2 พันล้านบาท หรือเท่ากับ organic growth เกือบ 40% และจากเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่อง ทำให้กองทุนนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มกองทุนหุ้นเวียดนามแทนที่กองทุนจากบลจ. พรินซิเพิล นอกจากนี้กองทุน K Vietnam Equity RMF ที่เปิดใหม่ในปีนี้มีเงินไหลเข้ามากเป็นอันดับที่ 4 ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิขึ้นไปแตะระดับ 1 พันล้านบาท

กองทุน KKP NDQ100- Hedge จากบลจ.เกียรตินาคินภัทร ยังคงติดอันดับกองทุนเงินไหลเข้าสูงสุดต่อเนื่องในไตรมาสล่าสุดที่ 2.1 พันล้านบาท มูลค่าทรัพย์สินสุทธิอยู่ที่ 4.3 พันล้านบาทหรือสูงสุดในกลุ่มกองทุนหุ้นสหรัฐ ขณะเดียวกันมีเงินไหลออกจากกองทุน semiconductor มากที่สุด 1.4 พันล้านบาท ซึ่งมีส่วนมาจากผลตอบแทนจากหุ้น semiconductor เป็นบวกในไตรมาสสุดท้าย ทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลงไปอยู่ระดับต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

แม้สถานการณ์กองทุนหุ้นเทคโนโลยีในปีนี้ไม่สู้ดีนัก แต่กองทุน Bualuang Global Innovation & Technology RMF (B-INNOTECH RMF) ยังมีเงินไหลเข้าต่อเนื่อง มากเป็นอันดับ 3 ในไตรมาสล่าสุด และเป็นกองทุนที่มีเงินไหลเข้าสุทธิสะสมของปีมากที่สุดของกลุ่ม Global Technology โดยกองทุนนี้และกองทุน B-INNOTECH เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ (standard deviation) และผลตอบแทนที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนอื่นในกลุ่มในรอบปีที่ผ่านมา