HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้บวก 3.25 จุด แกว่งไซด์เวย์ แนวต้านหลัก 1,695 จุด บรรยากาศลงทุนโดยรวมค่อนข้างผ่อนคลาย แรงหนุนหลักยังอยู่ที่คาดอัตราดอกเบี้ยใกล้พีคในเดือนมี.ค. หลังเงินเฟ้อชะลอตัวตามคาด แต่เชื่อตลาดตอบรับไปมากพอควรแล้ว กระแสเงินทุนไหลเข้าคาดเริ่มชะลอความร้อนแรง
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 16 ม.ค.2566 ณ เวลา 10.05 น. อยู่ที่ระดับ 1,684.98 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด หรือ +0.19% มูลค่าซื้อขาย 4,506.79 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มองตลาดหุ้นวันนี้แกว่ง Sideways to Sideways Up โดยยังมีแนวต้านหลักที่ 1,695+- จุด ซึ่งสัปดาห์ก่อนทดสอบหลายครั้ง แต่ยังไม่สามารถผ่านได้ บรรยากาศการลงทุนโดยรวมยังค่อนข้างผ่อนคลาย แรงหนุนหลักยังคงอยู่ที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ใกล้ Peak ในเดือน มี.ค. ที่ 4.75-5% ต่ำกว่า Dot Plot ที่ 5-5.25% หลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯชะลอตัวตามคาด อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าตลาดตอบรับประเด็นดังกล่าวไปมากพอสมควร ทำให้กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าคาดว่าจะเริ่มลดความร้อนแรงลง
ส่วนปัจจัยในประเทศโฟกัสอยู่ที่การเริ่มทยอยประกาศกำไรไตรมาส 4/65 ของกลุ่มธนาคารสัปดาห์นี้ หากออกมาไม่ต่ำกว่าตลาดคาด เชื่อว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อกลุ่ม Real Sector ที่จะเริ่มทยอย Preview และกาศกำไรตามออกมา ส่วนด้านการเมืองในประเทศยังเป็นอีกแรงหนุนจากการเลือกตั้งทั่วไปที่ใกล้เกิดขึ้นและยังไม่ปิดโอกาสเกิดการยุบสภาก่อนครบเทอม ระยะกลาง-ยาวยังชอบกลุ่ม Domestic/Reopening Play โดยมองจังหวะพักฐานเป็นโอกาสทยอยสะสม
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคอีก1,301 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ 1,039 ล้านเหรียญสหรัฐและ 399 ล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ หนุนจาก Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ( Bond Yield) สหรัฐฯที่ปรับลงตามทิศทางเงินเฟ้อที่ชะลอ ทำให้เม็ดเงินกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยง แต่อาเซียนเม็ดค่อนไปในฝั่งไหลออกนำโดยเวียดนาม 130 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนอินโดนีเซียยังไหลออต่อเนื่อง แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าต่อเนื่องโดยปัจจัยบวกยังอยู่ที่คาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด ใกล้ Peak ตามเงินเฟ้อที่ชะลอ
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BCP อยู่ที่ 38.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.32% มูลค่าซื้อขาย 373.86 ล้านบาท
ESSO อยู่ที่ 9.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ +1.06% มูลค่าซื้อขาย 301.81 ล้านบาท
DELTA อยู่ที่ 834.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +0.48% มูลค่าซื้อขาย 280.38 ล้านบาท
KCE อยู่ที่ 51.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.96% มูลค่าซื้อขาย 168.17 ล้านบาท
BDMS อยู่ที่ 29.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.65% มูลค่าซื้อขาย 167.56 ล้านบาท