ธนาคารกสิกรไทย มั่นใจสินเชื่อปีนี้เติบโต 6.5% ยอมรับไตรมาส 4 ทรงตัว เผยปี 2562 ตั้งเป้าโต 6.5-7% เน้นสินเชื่อรายย่อย เหตุโครงการขนาดใหญ่ล่าช้า-คุมเข้มคุณภาพสินเชื่อเอสเอ็มอี อนุมัติงบ 1,300 ล้านบาทพัฒนาระบบ Digital Banking รองรับ 50,000 ธุรกรรม/วินาที ในสิ้นปีหน้า
น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่า อัตราการเติบโตของสินเชื่อรวมจะอยู่ที่ 6.5% ตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ยอมรับว่า ในไตรมาส 4 จะทรงตัวเนื่องจากช่วงนี้ของปีจะปล่อยสินเชื่อได้น้อย (Low Season)
ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะไม่เกิน 3.3-3.4% จากปัจจุบันที่ 3.29% และการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญอยู่ในทิศทางลดลง
สำหรับเป้าหมายการขยายสินเชื่อในปี 2562 น.ส.ขัตติยา เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นธนาคารตั้งเป้าหมายการขยายสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 6.5-7% จากปี 2561 โดยแบ่งเป็นสินเชื่อรายใหญ่ 6-7% สินเชื่อเอสเอ็มอี 3-4% และสินเชื่อรายย่อย 6-7%
“ในปีหน้าธนาคารให้ความสำคัญกับสินเชื่อรายย่อยเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะสินเชื่อรถใหม่ รถช่วยได้ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล เนื่องจากคาดว่าสินเชื่อรายใหญ่เติบโตได้ไม่มาก เพราะโครงการลงทุนภาครัฐล่าช้า ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีต้องดูแลเรื่องคุณภาพทำให้ไม่มีการเติบโตมากนัก” น.ส.ขัตติยา กล่าว
นอกจากนี้ น.ส.ขัตติยา กล่าวว่า ปีนี้สินเชื่อบ้านของธนาคารคาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5% โดยไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นการกู้ซื้อบ้านหลังแรก โดยราคาบ้านเฉลี่ยอยู่ที่ 3-7 ล้านบาท ขณะที่บ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปมีเพียง 10-20% ของพอร์ตสินเชื่อคงค้างทั้งหมด ที่ 8-9 หมื่นล้านบาท
“ช่วงที่ผ่านมาธนาคารไม่ได้มีการออกแคมเปญสินเชื่อบ้านในการกระตุ้นยอดสินเชื่อบ้านมากนัก และมีอัตราการอนุมัติสินเชื่อบ้าน 50-60% เท่านั้น รวมถึงธนาคารไม่เน้นการปล่อยสินเชื่อบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากมีค่าน้ำหนักความเสี่ยงสูง (Risk Weight) ทำให้มีผลต่อเงินกองทุน” น.ส.ขัตติยา กล่าว
น.ส.ขัตติยา กล่าวอีกว่า NPL สินเชื่อบ้านที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจส่วนตัว ขณะที่กลุ่มพนักงานประจำยังสามารถผ่อนชำระได้ปกติ ทำให้ในปี 2562 จะเข้มงวดการให้สินเชื่อลูกค้าที่ทำธุรกิจส่วนตัวมากขึ้น และตั้งเป้าหมายการขยายสินเชื่อบ้านปีหน้าไว้ที่ 4-5%
นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ประธาน กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับอนุมัติงบประมาณ 1,300 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาศักยภาพระบบ Digital Banking โดยในสิ้นเดือน ต.ค. จะสามารถรองรับปริมาณธุรกรรมได้ถึง 10,000 ธุรกรรม/วินาที จากปัจจุบันที่รองรับได้ 6,000 ธุรกรรม/วินาที และจะเพิ่มเป็น 50,000 ธุรกรรม/วินาทีในสิ้นปี 2562
“ปัจจุบันในแต่ละเดือนจะมีปริมาณธุรกรรมเดือนละ 125 ล้านครั้ง โดยช่วงเวลาที่มีปริมาณสูงสุดจะมีถึง 4,000 ธุรกรรม/วินาที ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมด้านการเงิน แต่เชื่อว่าในอนาคตจะมีธุรกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวกับไลฟ์ไตล์มากขึ้น” นายสมคิด กล่าว