HoonSmart.com>> เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าหุ้นไทย ยอดซื้อสุทธิ (9 ม.ค.) กว่า 4,337 ล้านบาท ดัน SET พุ่ง 17 จุด ปิดเกือบนิวไฮ 1,691 จุด จุดพลุเก็งกำไรหุ้นลีสซิ่งวิ่งแรงยกแผง “ MTC-SAWAD-TIDLOR “ เหตุราคาขึ้นน้อยกว่าตลาด
ดัชนีตลาดหุ้นไทย (9 ม.ค.) ปิดที่ระดับ 1,691.12 จุด เพิ่มขึ้น 17.26 จุด หรือ +1.03% มูลค่าซื้อขาย 78,508.44 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,693.42 จุด ต่ำสุด 1,684.90 จุด
นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 4,337.19 ล้านบาท , พอร์ตโบรกเกอร์ซื้อสุทธิ 35.54 ล้านบาท กองทุนขายเล็กน้อย 2.73 ล้านบาท รายย่อยขายสุทธิ 4,370.01 ล้านบาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็บวกได้เล็กน้อย หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยภาคการผลิต อย่างยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนชะลอตัวลง และการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐก็เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นถึงเศรษฐกิจสหรัฐยังได้แรงหนุนจากคนมีกำลังซื้อดี เศรษฐกิจสหรัฐจึงชะลอแบบค่อยเป็นค่อยไป การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จึงน่าจะชะลอตัวได้
นอกจากนี้ การเปิดประเทศของจีนก็เป็นบวกต่อเศรษฐกิจไทย ทำให้คนมองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ นอกเหนือจากกลุ่มหลักที่ได้ประโยชน์แล้ว ก็มองกลุ่มรองลงมาเป็นหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ที่ปรับตัวขึ้นได้ดีในวันนี้ จากการมองเศรษฐกิจดีขึ้นก็จะเพิ่มโอกาสการเกิดหนี้สเสียลดลง พร้อมให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่จะออกมาในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าจะชะลอตัวลง โดยตลาดคาดเงินเฟ้อเดือนธ.ค.จะออกมา 6.5% ลดลงจากเดือนพ.ย.ที่ 7.1% และรอติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคารในสัปดาห์หน้า
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันพรุ่งนี้ (10 ม.ค.) ตลาดยังมีโมเมนตัมเป็นบวกอยู่ โดยมีแนวรับ 1,680 จุด แนวต้าน 1,700-1,710 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 842.00 บาท เพิ่มขึ้น 34.00 บาท หรือ +4.21% มูลค่าซื้อขาย 3,825.27 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 73.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท หรือ +3.91% มูลค่าซื้อขาย 3,628.81 ล้านบาท
MTC ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +10.81% มูลค่าซื้อขาย 2,248.65 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ +1.63% มูลค่าซื้อขาย 1,877.53 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ +0.98% มูลค่าซื้อขาย 1,838.56 ล้านบาท
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.พาย กล่าวว่า ราคาหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นได้ดีในช่วงเช้านี้ โดยเฉพาะหุ้น MTC และ SAWAD มีวอลุ่มเทรดเข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่า เป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจาก ได้อานิสงส์จากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายในต่างจังหวัด ทำให้กลุ่มไฟแนนซ์มีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงเกี่ยวกับหนี้เสีย จากปัญหาก่อนหน้านี้เจอการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้คนทำมาหากินไม่ได้ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ ล่าสุดจีนเปิดประเทศก็เป็นปัจจัยหนุน และในช่วงสั้นรับ Sentiment บวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (ฺBond yield) สหรัฐอ่อนตัวลง
“หุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ Laggard มาก ราคาหุ้นปรับตัวลงมาปีกว่าแล้ว พอมีวลุ่มเข้าก็เหมือนจุดพลุ หุ้นกลุ่มนี้ขึ้นทีก็ร้อนแรง และนักลงทุนคงจะเข้ามาเล่นเก็งกำไรก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มองว่าจะเริ่มเห็นผลงานดีขึ้นในไตรมาส 2/66 ไปจนถึงครึ่งหลังปี 66 อีกทั้งบอนด์ยีลด์สหรัฐอ่อนลงก็เป็น Sentiment บวกช่วงสั้น”
สำหรับหุ้น MTC แนะนำ”ซื้อ”ให้ราคาเป้าหมาย 43 บาท คาดกำไรปี 66 เติบโต 10% โดยมองว่าผลงานจะดีในครึ่งหลังปี 66 ส่วนครึ่งแรกปี 66 น่าจะมีเรื่องการตั้งสำรองฯ แต่ก็ดีขึ้นจากการเปิดประเทศ