HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 133 จุด ท่ามกลางแรงซื้อสลับแรงขาย นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ ส่วนประชุม 31 ม.ค.-1 ก.พ.นี้ คาดขึ้นดอกเบี้ยอีก จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงแรง 4.09 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ส่วนใหญ่ปิดบวก แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 4 มกราคม 2566ปิดที่ 33,269.77 จุด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด หรือ 0.40% ท่ามกลางแรงซื้อสลับแรงขาย ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจและรายงานการประชุมเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,852.97 จุด เพิ่มขึ้น 28.83 จุด, + 0.75%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,458.76 จุด เพิ่มขึ้น 71.78 จุด, + 0.69%
ตลาดเปิดในแดนบวก แต่อ่อนตัวลงหลังการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสองชุด โดยกระทรวงแรงงานรายงานผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เดือนพฤศจิกายน ลดลง 54,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.458 ล้านตำแหน่ง แต่สูงกว่า 10.0 ล้านตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นสัญญานว่าตบาดแรงงานแข็งแกร่งต่อเนื่องแม้เฟดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ
สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเดือนธันวาคมลดลงสู่ระดับ 48.4 จาก 49.0 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการหดตัวต่อเนื่องเดือนที่ 2 และต่ำกว่า 48.5 ที่นักวิเคราะห์คาด และเป็นการหดตัวหลังขยายตัวมาต่อเนื่อง 30 เดือน เป็นสัญญานว่าการขึ้นดอกเบี้ยอาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
หลังจากนักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลเศรษฐกิจแล้วได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่กลับลดลงอีกครั้งจากการเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคมของเฟด ที่ยังแสดงให้เห็นถึงแนวนโยบายที่ตึงตัว แม้จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ก็ตาม นอกจากนี้เฟดยังคงตั้งใจที่จะคงดอกเบี้ยไว้จนกว่ามีข้อมูลมากพอที่แสดงว่าเงินเฟ้ออ่อนตัวลง
รายงานของเฟดระบุว่า กรรมการเฟดไม่มีความเห็นต่อการผ่อนคลายเงื่อนไขทางการเงินเฟ้อที่ไม่ได้ประกันว่าจะมีผล และอาจจะกระทบต่อการฟื้นฟูเสถียรภาพราคา แต่ในขณะเดียวกันก็รับทราบถึงความจำเป็นที่ต้องดำเนินนโยบายยืดหยุ่นมากขึ้น
เฟดจะประชุมในวันที่ 31 มกราคมถึง 1 กุมภาพันธ์ 2023 และคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก
ไมค์ โลว์เวนการ์ต จาก มอร์แกนสแตนเล่ย์ โกลบอล อินเวสเม้นท์ กล่าวว่า รายงานการประชุของเฟดเป็นการเตือนนักลงทุนว่าดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับสูงในปี 2023
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคมในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า จะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.7%
หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง 4.4% หลังยูบีเอสปรับลดคำแนะนำการลงทุนจาก buy เป็น neutral และลดราคาเป้าหมายลงมาที่ 250 ดอลลาร์ด้วยความวิตกต่อรายได้ของธุรกิจคลาวด์
หุ้นอาลีบาบาบวก 13.1% หลังแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้ANT Group บริษัทลูกระดมทุน 10.5 พันล้านหยวน
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดบวก โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด ทั้งข้อมูลเงินเฟ้อ และข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซน
เงินเฟ้อยูโรโซนเดือนพฤศจิกายนลดลงจาก 7.1% มาที่ 6.7% ขณะที่ดัชนีPMI เดือนธันวาคมเพิ่มขึ้นมาที่ 49.3 จาก 47.8 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งหดตัวน้อยกว่าที่คาด และอาจจะทำให้ธนาคารกลางยุโรปชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นจากที่คาดไว้ และอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยไม่มาก
นักลงทุนรอการเผยแพร่รายงานการประชุมเดือนธันวาคมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 440.19 จุด เพิ่มขึ้น 6.01 จุด, +1.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,585.19 จุด เพิ่มขึ้น 31.10 จุด, +0.41%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,776.43 จุด เพิ่มขึ้น 152.54 จุด, +2.30%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,490.78 จุด เพิ่มขึ้น 309.11 จุด, +2.18%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 4.09 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 72.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมีนาคมลดลง 4.26 ดอลลาร์ หรือ 5.2% ปิดที่ 77.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล