ดาวโจนส์ปิดลบ 73 จุด ปีที่แย่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงิน 2008

HoonSmart.com>>ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA) วันที่ 30 ธันวาคม 2565 ปิดที่ 33,147.25 จุด ลดลง 73.55 จุด หรือ 0.22% เป็นการปิดการซื้อขายของปี 2022 ที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008  ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ  การเงินที่ตึงตัวของหลายธนาคารกลางกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.45 ดอลลาร์ หรือ 2.9% 

ด้วยแรงช้อนซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนพยายามที่จะหนุนตลาดในช่วงสองวันทำการสุดท้ายของปี

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,839.50 จุด ลดลง 9.78 จุด, -0.25%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,466.48 จุด ลดลง 11.61 จุด, -0.11%

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.2%, ดัชนี S&P500 ลดลง 0.1% และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.3% และในรอบปีนี้ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 8.8%, ดัชนี S&P500 ลดลง 19.4% และดัชนี Nasdaq ลดลง 33.1%

อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีผลต่อหุ้นเทคโนโลยี และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนตลอดทั้งปี ขณะเดียวกันความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนยังทำให้ตลาดอยู่ในความวิตกตลอดเวลา

อาร์ต คาชิน จาก UBS ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า มีหลายปัจจัยที่กระทบตลาดทั้งโควิดในจีน สงครามยูเครน ซึ่งเป็นปัญหารุนแรง แต่สำหรับนักลงทุนมีอย่างเดียวคือ การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

ขณะเดียวกันมีรายงานจาก Nikkei อ้างแหล่งข่าวว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นกำลังพิจารณาจะปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในเดือนมกราคมเพื่อสะท้อนระดับราคาที่เข้าใกล้กรอบเป้าหมาย 2% ในปีงบประมาณ 2024

นักลงทุนมองว่าในปีหน้า ปัจจัยลบเหล่านี้ยังมีอยู่ และตลาดยังคงอยู่ในแดนหมีจนกว่าเศรษฐกิจจะถดถอย หรือเฟดบรรลุเป้าหมาย

การขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกของเฟดกดดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีให้ลดลง 28% เป็นการลดลงอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2008 ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นกลุ่มที่ร่วงลงแรงที่สุดในปีนี้ โดยลดลงกว่า 40%

ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 2 มกราคม 2023 และจะเปิดทำการตามปกติในวันที่ 3 มกราคม

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดลบ และเป็นปีที่ตลาดแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2018 จากสงครามรัสเซียกับยูเครน เงินเฟ้อสูง และการดำเนินนโยบายการเงินที่ตึงตัวของหลายธนาคารกลางกดดันสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

สงครามในยูเครนไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น และจีนกำลังอยู่ในช่วงการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังยุติมาตรการโควิดที่เข้มงวดมาร่วม 3 ปี นักลงทุนยังกังวลใจต่อแนวโน้มในปี 2023

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 424.89 จุด ลดลง 5.46 จุด หรือ -1.27% และลดลง 12.9% ในปีนี้ เป็นปีที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่การลดลง 13.24% ใน ปี 2018

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,451.74 จุด ลดลง 60.98 จุด, -0.81%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,473.76 จุด ลดลง 99.71 จุด, -1.52%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,923.59 จุด ลดลง 148.13 จุด, -1.05%

ในรอบปีนี้ดัชนี CAC 40 ลดลง 9.5% ดัชนี DAX ลดลง 12.5%

ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนที่เปิดซื้อขายครึ่งวันก็ปิดลบ แต่ทั้งปีนี้บวก 1.2%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 1.86 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 80.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และเพิ่มขึ้นเกือบ 7% ในปี 2022 ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.45 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 85.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลและเพิ่มขึ้นราว 10% ในปี 2022