HoonSmart.com>>หุ้นไทยบวกกว่า 9 จุด วอลุ่มบางเฉียบไม่ถึง 3 หมื่นล้านบาท ได้ราคาน้ำมันขึ้นหนุนกลุ่มพลังงาน ครอบครัวปตท.ฟื้น เดลต้าฯไปต่อ หวังแรงซื้อทำ Window Dressing บล.เอเซียพลัสยกสถิติ 7 ปี ปลายปีบวกมากกว่าลง ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.5% บล.ทิสโก้แนะพอร์ตลงทุนถือข้ามปี โนมูระฯเชียร์ SET50 ที่ยัง Laggard
ตลาดหุ้นวันที่ 26 ธ.ค..2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,626.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.25 จุด หรือ +0.57% มูลค่าซื้อขาย 29,439.53 ล้านบาท ด้านสถาบันไทยซื้อสุทธิ 1,551.08 ล้านบาท สวนทางนักลงทุนไทยขาย 1,187.90 ล้านบาท บัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 328.23 ล้านบาท และต่างชาติขาย 34.94 ล้านบาท
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นในภูมิภาคมีทั้งบวกและลบ โดยจีนและญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 0.65%
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นโดดเด่น ได้หุ้นปตท.ฟื้นคืนชีพ PTT บวก 2.38% ปิดที่ 32.25 บาท PTTEP เพิ่มขึ้น 1.46% ปิดที่ 174 บาท PTTGC เพิ่มขึ้น 1.68% ปิดที่ 45.50 บาท IRPC บวก 1.37% ปิดที่ 2.96 บาท ส่วน DELTA ยังคงถูกใช้ผลักดันตลาดได้ดี ราคาปิดที่ 720 บาท บวก 1.69%
นายธีรศักดิ์ ธนวรากุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นวันนี้ปรับตัวขึ้นไปมากเกินไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดโดยรวมที่เบาบาง ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น และหุ้น DELTA ก็ปรับตัวขึ้นดันดัชนีฯด้วย
สาเหตุที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นรอบนี้มาจากรัสเซียลดกำลังการผลิตน้ำมัน มองว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นได้อีก ดังนั้นจึงต้องจับตาทิศทางราคาน้ำมัน ส่วนแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติคาดว่าปีหน้าจะเข้ามาซื้อค่อนข้างสูง จากเศรษฐกิจไทยที่มีสัญญาณการฟื้นตัวดี ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (27 ธ.ค.) มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้ในกรอบจำกัด แนวต้าน 1,630 จุด แนวรับ 1,615-1,611 จุด
บล.เอเซียพลัส เปิดเผยว่า ฝ่ายวิจัยได้ศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของ SET Index หลังจากคริสต์มาสวันที่ 25 ธ.ค.จนถึงวันทำการสุดท้ายของแต่ละปี เพื่อพิสูจน์ทางสถิติว่าปรากฎการณ์ Santa Rally มีจริงหรือไม่ ผลที่ออกมาพบว่านับจากปี 2558 เป็นต้นมาย้อนหลัง 7 ปี พบว่า ตลาดหุ้นไทยยังปรับตัวขึ้นได้ 5 ใน 7 ปี และให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +0.5 % แต่มูลค่าการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลวันหยุดยาว บวกกับความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้ามากดดันเป็นระยะๆ ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเนื่องจากความตึงเครียดในภูมิภาคอาจรุนแรงขึ้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด(Outperform) คือ FIN 1.8%, AGRI 1.6%, CONMAT 1.1%, CONS 1.0%, FOOD 0.9%, BANK 0.9% และ TRANS 0.8%
เป็นต้น
“หุ้นที่ฝ่ายวิจัยแนะนำรับ Santa Rally คือ MTC หลังวันคริสต์มาสถึงสิ้นปีให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวก 1.8%, ASK 0.8%, SCC 1.2%, CK 1%, SCB 1.3%,
TISCO 1% และ AOT 1.3% ตอนนี้หุ้นอยู่ในโหมดของการรีบาวน์ต่อ แต่กรอบการขึ้นยังค่อยเป็นค่อยไปเพราะมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง คาดกรอบการเคลื่อนไหวของวันที่ 1,610-1,630 จุด”บล.เอเซียพลัสระบุ
บล.ทิสโก้เลือกเทรดดิ้งสั้นรายตัวมีลุ้นในทางบวกมากขึ้น หลังปิดสัปดาห์ยังยืนเหนือระดับ 1,610 แนะหาจังหวะเข้าเก็งกำไร คาดหวัง Window Dressing และเงินกองทุนในประเทศไหลเข้า ส่วนพอร์ตลงทุน แนะถือลงทุนข้ามปี หาจังหวะสะสมเพิ่ม
ทั้งนี้หุ้นเข้าข่าย Window Dressing รอบนี้ ได้แก่ ADVANC, BDMS,INTUCH, TU, WHA ส่วนหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น CPF (ซื้อหุ้นคืน), DTAC (แผนควบรวมเดินหน้าต่อ), III และ SCGP (จีนเปิดเศรษฐกิจ)
บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมินตลาดระยะสั้น “Sideways/Sideway Up” ตลาดหุ้นฮ่องกง สิงคโปร์ และสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในเทศกาล X’mas เน้น 4 ธีม กลุ่มที่คาดว่าจะเคลื่อนไหวดีกว่าตลาดระยะสั้นอยู่ในธีม Window Dressing หลังดัชนีตอนนี้ยังต่ำกว่าสิ้นปี 2564 ที่ปิด 1,657จุด พอสมควร และตั้งแต่ต้นปีพบว่าหุ้นใน SET50 ที่ยัง Laggard จึงมีโอกาสถูกทำ Window Dressing สูง ได้แก่ CBG (-21.3%) GPSC (-20%) OSP (-19.7%) SCGP (-19.4%) SCB (-17.3%) และ SCC (-13.7%)
ธีมหุ้นเข้า SET50 (DELTA, RATCH, COM7, CENTEL) ธีมหุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาแล้วและกำลังพิจารณาต่อในระยะถัดไป ผสานหุ้นอุปโภคบริโภคพื้นฐานมั่นคงและได้กระแสบวกความคาดหวังเลือกตั้งใหญ่ในประเทศไทย(CRC, COM7, HMPRO, MAKRO, BJC, CPALL, BBL, M, ADVANC, TRUE, AEONTS,KTC, SC, SIRI, AMATA) และกลุ่ม High Growth (BE8, BBIK, JMT, JMART) และธีมที่ 4 นักท่องเที่ยวไทยโต+จีนเปิดประเทศ (SCGP, SPA, AOT, AU, BAFS, AAV, ICHI,SISB, CBG, AWC, SNNP, CENTEL, ERW, MINT, MAKRO)
สำหรับการลงทุนระยะกลาง- ยาว กลุ่มที่ยังให้เลือกสะสม ให้เน้นไปที่ หุ้น Picksเดือนธ.ค. AMATA, CRC, GPSC, GULF, JMT, MAKRO, SCGP และหุ้นเด่นปี 2566 ขนาดใหญ่ คือ AAV, AOT, AMATA, CPALL, CRC, GPSC, GULF, SCGP, CBG,BAM, BBL ส่วนบริษัทขนาดกลางและเล็ก SPA, ICHI, SAPPE, BE8, ONEE, MC
บล.กสิกรไทยหุ้นแกว่งตัวขึ้นต่อทะลุแนวต้านที่ประเมินไว้ที่ 1,625 จุดและยืนเหนือได้สอดคล้องกับตลาดหุ้นในเอเซียปรับขึ้น ในทางเดียวกัน ธีมหุ้นแนะนำในช่วงนี้หุ้นที่มีโอกาสถูกทำ Window dressing คือ หุ้นที่กองทุนถือติด top 5 แนวโน้มผลประกอบการปี 2566 ดีและมีสภาพคล่องการซื้อขายปานกลางถึงต่ำ เช่น MAKRO, AEONTS, GLOBAL, MC
ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติที่ยุโรปปรับตัวลง โดย Dutch TTF ล่าสุดลดลงเหลือ 83 ยูโรต่อ MWh (-30% จากสัปดาห์ก่อน) และต่ำสุดนับแต่ต้นปี 2565 มองเป็นบวกกับกลุ่มโรงแรมในยุโรป คือ MINT, SHRมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เริ่มต้นปี 2566มองบวกต่อโรงแรมในประเทศ อาทิ ERW และ CENTEL รวมถึงการผลักดันมาตรการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในช่วงโค้งสุดท้ายของปีมองบวกต่อกลุ่มรับเหมา ชอบ CK