ตลาดหลักทรัพย์ จับตา AI ทำตลาดหุ้นผันผวนสูง รับศึกษาข้อมูลกำกับดูแลการซื้อขาย “ชลเดช เขมะรัตนา” ฟันธงนักลงทุนรายย่อยไม่มีวันชนะ AI แนะนำเลือกหุ้นดี ลงทุนระยะยาว
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยอมรับว่า ในปัจจุบันมีนักลงทุน ทั้งบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนรายย่อยใช้ Program Trading หรือ โปรแกรมการซื้อขายอัตโนมัติ (AI) มากขึ้น และอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนมากขึ้น ซึ่ง ตลท.อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลในการกำกับดูแลการซื้อขายดังกล่าว
“โลกมันเปลี่ยนแปลงไป การที่มาดูการซื้อขายมันต้องเปลี่ยนแปลงไป เราเห็นพฤติกรรมของบริษัทหลักทรัพย์พฤติกรรมของนักลงทุนเริ่มใช้การลงทุนผ่าน Program Trading มากขึ้นตรงนี้ก็ทำให้ความผันผวนมีโอกาสสูงขึ้น เราก็ต้องมาดูว่าในอนาคตเราจะดูแลตลาดเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างไร ทุกอย่างต้องปรับปรุงเพราะพฤติกรรมมันเปลี่ยน (ตลท.) กำลังดูอยู่” นายภากร กล่าว
นายชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) โรโบเวลธ์ และ บริษัท ฟินเทค (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการระบบการซื้อขายหลักทรัพย์แบบอัตโนมัติ (Algorithmic Trading System) สำหรับบริษัทหลักทรัพย์และนักลงทุนรายบุคคล กล่าวว่า นักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีเครื่องมือช่วยเหลือในการซื้อขายจะเสียเปรียบนักลงทุนที่ใช้ Robot Trading หรือ Artificial Intelligence (AI) อยู่แล้ว โดยเฉพาะความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขาย
“ถึงจะไม่มี AI นักลงทุนรายย่อยก็เสียเปรียบมานานแล้ว เพราะเทคโนโลยีต่ำสุด แต่เมื่อมี AI มี Robot Trading จะเข้ามาช่วยนักลงทุนรายย่อย เพราะรายย่อยใช้ได้ เหมือนเมื่อก่อนนักลงทุนรายย่อยมีแต่ดาบ ใช้มือชก แต่นักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างชาติมีปืน แต่ตอนนี้นักลงทุนรายย่อยก็มีปืนใช้ ซึ่งในปัจจุบันโบรกเกอร์หลายแห่งมีบริการรูปแบบนี้ให้นักลงทุนรายย่อยอยู่แล้ว” นายชลเดช กล่าว
นอกจากนี้ นายชลเดช กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีเกณฑ์ควบคุมในการทำ Robot Trading อยู่แล้วว่า คำสั่งแบบไหนที่ทำได้ คำสั่งแบบไหนทำไม่ได้ ในขณะที่ผู้ออกแบบ Algorithmic Trading เองจะกำหนดช่วงราคา (Price Band) ในการซื้อขายอยู่แล้ว ซึ่งหากตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการเข้ามาควบคุม Price Band ก็สามารถทำได้ แต่ไม่เชื่อว่าจะลดความผันผวนของตลาดได้
“คำว่า AI คือ การให้คอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเอง ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้จากทุกปัจจัย ทั้งงบการเงิน การเคลื่อนไหวของราคา และข่าว เพราะฉะนั้นสิ่งที่อยากจะบอกนักลงทุน คือ ไม่ควรจะเก็งกำไรระยะสั้น ไม่ควรซื้อขายรายวัน เพราะไม่มีทางชนะนักลงทุนสถาบัน ต้องเลือกหุ้นดีๆ ลงทุนระยะยาว ทำ DCA (Dollar Cost Averaging) ไม่ต้องแข่งกับใคร” นายชลเดช กล่าว
อ่านประกอบ