HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทย มองหุ้นสัปดาห์สุดท้ายของปี 2565 ให้แนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,625 และ 1,635 จุด จับตา Window Dressing ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน ด้านค่าเงินบาท ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหว 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยมองหุ้นสัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) ว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,600 และ 1,590 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,625 และ 1,635 จุด ตามลำดับ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์โควิดในจีน รวมถึงการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ กำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของจีน ยอดค้าปลีก และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น
ในวันศุกร์ (23 ธ.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,617.55 จุด ลดลง 0.09% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 47,240.56 ล้านบาท ลดลง 20.37% ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.69% มาปิดที่ระดับ 561.40 จุด
ตลาดหุ้นกลับมาปิดใกล้เคียงสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index เผชิญแรงขายในช่วงต้นสัปดาห์ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้จะมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ แต่ตลาดกลับมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่ธนาคารกลางหลายประเทศยังคงส่งสัญญาณในเชิงคุมเข้มนโยบายการเงิน ขณะที่ล่าสุด BOJ ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีให้กว้างขึ้นมาเป็นกรอบ +/- 0.50% (จากเดิม +/- 0.25%) แม้ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นจะกล่าวว่า ไม่ใช่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ตลาดก็ตีความว่าเป็นการปรับท่าทีไปในเชิงคุมเข้มของธนาคารกลางญี่ปุ่น
อย่างไรก็ดีหุ้นทยอยฟื้นตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ นำโดย หุ้นแบงก์และกลุ่มพลังงาน ประกอบกับหุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งมีปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากประเด็นการถูกคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 หุ้นไทยขยับขึ้นได้เพียงเล็กน้อยช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดยังคงกังวลแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
สำหรับค่าเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (26-30 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 34.50-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์ฯ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยน หลัง BOJ สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศขยายกรอบการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์รัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วนในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งทำให้มีความกังวลว่า เฟดจะคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินแบบคุมเข้มต่อไป
ในวันศุกร์ที่ 23 ธ.ค. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.74 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ธ.ค.) สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 19-23 ธ.ค. 2565 นั้น นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,051 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 25,461 ล้านบาท (ขายสุทธิ 11,794 ล้านบาท และตราสารหนี้ที่หมดอายุ 13,667 ล้านบาท)