คลุกวงในหุ้น : รายย่อยเละ

โดย…สุนันท์ ศรีจันทรา

เพียงช่วง 6 วันทำการของเดือนตุลาคม นักลงทุนต่างชาติ ถล่มขายหุ้นยอย่างหนักและต่อเนื่อง จนยอดขายสุทธิสะสมพุ่งขึ้นถึง 13,420 ล้านบาท และดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ถอยรูดจากระดับ 1,760 จุด ลงมาปิดที่ 1,696 จุดเมื่อวันที่ 8 ต.ค. หรือลงมาม้วนเดียวกว่า 60 จุด

ไม่มีเวลาให้ถามไถ่กันแล้วว่า ทำไมต่างชาติจึงทุบหุ้น และนาทีนี้ สิ่งที่นักลงทุนอยากรู้มากกว่าคือ เมื่อไหร่ต่างชาติจะหยุดขาย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาว 10 ปี ที่พุ่งขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 6 ปี โดยทะยานขึ้นไปที่ระดับ3.4% ต่อปี ทำให้ต่างชาติ เปิดฉากทิ้งหุ้น ถอนทุนกลับสหรัฐ และตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ขายหนักในแต่ละวัน ขณะที่กองทุนรวมในประเทศ ก็ร่วมถล่ม ขายตามต่างชาติ

นักลงทุนรายย่อย กลายเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ช้อนเก็บหุ้นสวนแรงขายต่างชาติมาตลอด จนต้อนนี้อยู่ในสภาพ “รับเละ” แบกหุ้นต้นทุนสูงเต็มพอร์ต โดยเดือนตุลาคมซื้อไปแล้ว 23,745.94 ล้านบาท

สถานการณ์การลงทุน ระหว่างปลายเดือนกันยายน กับต้นเดือนตุลาคม กลายเป็นหนังคนละม้วน จากแนวโน้มรอบขาขึ้น พลิกผันมาเป็นรอบขาลงเต็มตัว ลงชนิดไม่ลืมหูลืมตา และนักลงทุนรายย่อยก็หมดตัวช่วยแล้ว เพราะ พอร์ตโบรกเกอร์ช่วงนี้ยืนคุมเชิง ขณะที่กองทุนรวมในประเทศ ผสมโรงขายตามต่างชาติ

นักลงทุนรายย่อย สวนหมัดกับต่างชาติมายกหนึ่งแล้ว ผลปรากฏ เจ็บสะบักสะบอม เข้าไปแบกรับของหนักจากต่างชาติ เปิดโอกาสให้ฝรั่งขายหุ้นได้ราคา ก่อนหอบเงินกลับ ทิ้งนักลงทุนในประเทศให้ติดอยู่บนยอดดอย และยังหาทางลงไม่เจอ

แม้ว่าดัชนีฯ รอบนี้ จะปรับตัวลงมาแรงและเร็ว จนถือว่าลงมาลึกพอสมควรแล้ว แต่ทิศทางการลงทุน ก็ต้องประเมินกันวันต่อวัน โดยมีปัจจัยภายนอกเป็นตัวชี้นำ มีแรงขายของต่างชาติเป็นตัวแปรที่ต้องเฝ้าระวัง และไม่สามารถฟันธงได้ว่า ตลาดหุ้นปรับฐานลึกสุดแล้ว

เพราะดัชนี ฯ มีโอกาสปักหัวลงต่อ เนื่องจาก ข่าวร้ายยังกระหน่ำไม่หยุด ขณะที่ข่าวดียังขาดแคลน นักลงทุนรายย่อยสูญเสียความมั่นใจ และน่าชะลอการซื้อลง หลังจากช้อนเก็บหุ้นจนเงินสดขาดมือ

สิ่งที่อาจเป็นแง่มุมในด้านบวกต่อตลาดหุ้น คือ ราคาหุ้นปรับตัวลงมามากแล้ว ซึมซับข่าวร้ายไปหมดสิ้น ถ้าไม่มีข่าวร้ายซ้ำเติม ดัชนีดาวโจนส์ตั้งหลักได้ ไม่วูบลงอีก ตลาดหุ้นน่าจะยืนทรงตัวขึ้นมาได้ ซึ่งนักลงทุนคงจะสบายใจ หายเครียด

เพราะถ้าดัชนีฯ ประคับประคองตัวได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณ การฟื้นตัวกลับของตลาดหุ้น

แต่ขณะนี้ ยังไม่มีสัญญาณการเด้งกลับ นักลงทุนรายย่อ ยก็ไม่ควรผลีผลามช้อนซื้อหุ้น

อย่ากลัวว่า จะพลาดโอกาสขึ้นรถไฟเที่ยวแรก อย่ามองว่า ระดับราคาหุ้นต่ำแล้ว เพราะพรุ่งนี้อาจซื้อได้ถูกกว่า

ท่ามกลางความแปรปรวนของตลาดหุ้น นักลงทุนต้องนิ่งไว้ เฝ้าสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวเท่านั้นพอ รอจนกว่าสัญญาณการฟื้นตัวจะเกิดขึ้น ถึงตอนนั้นจึงลุยได้เต็มตัว แต่ตอนนี้รักษาเนื้อรักษาตัวไปก่อน

หลีกเลี่ยงหุ้นขนาดใหญ่ ซึ่งตกเป็นเป้าหมายการเทขายของต่างชาติ กำเงินสดไว้ให้แน่ พร้อมจะกลับมาลุยช้อนหุ้นทันทีที่แนวโน้มเปลี่ยนสู่รอบขาขึ้น

แต่ตอนนี้ ลุยไปอาจกลายเป็นการวิ่งชนกำแพง เจ็บตัวฟรี เพราะการปรับฐานยังไม่สะเด็ดน้ำเสียทีเดียว อดใจรออีกสักหน่อย คงได้เวลาช้อนของถูกจริง