HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 1.79 จุด ซึมคล้ายตลาดต่างประเทศ หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน-กังวลขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ท่ามกลางรอดูการประชุมเฟด 13-14 ธ.ค.นี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,041.07 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,085.62 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งซึมก่อนหยุดยาว แนวรับ 1,615-1,610 แนวต้าน 1,627-1,630 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 8 ธ.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,620.49 จุด ลดลง 1.79 จุด หรือ -0.11% มูลค่าซื้อขาย 42,657.31 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,625.90 จุด ต่ำสุด 1,615.06 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,041.07 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 346.81 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,085.62 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 391.81 ล้านบาท
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้เคลื่อนไหวซึมตัวลงคล้ายตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบลักษณะซึม ยกเว้นบางตลาดที่ปรับตัวขึ้นได้จาปัจจัยเฉพาะตัวของแต่ละตลาด อย่างตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวขึ้นได้ดี ตอบรับความคาดหวังการเปิดประเทศหลังทางการให้ถอดแมสในที่สาธารณะได้ ทำให้มีความหวังในการเปิดประเทศ ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อยแค่ 0.1% เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่หนุน ประกอบกับมีความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ อยู่ในช่วงการรอดูการประชุมเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 15 ธ.ค. อีกทั้งในวันที่ 16 ธ.ค.ฟุตซี่จะปรับน้ำหนักการลงทุนด้วย และคาดว่าตลาดจะประกาศหุ้นเข้า/ออกใน SET50-SET100
“วันนี้เม่าไม่เทรดกระทบวอลุ่มตลาดเล็กน้อยมาก เพราะวอลุ่มตลาดแผ่วไปอยู่แล้วจากที่ตลาดขาดปัจจัยหนุน และยังจะหยุดยาวอีกด้วย ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุนอยู่แล้ว”
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 9 ธ.ค.2565 ตลาดจะเคลื่อนไหวซึมก่อนหยุดยาว โดยมีแนวรับ 1,615-1,610 จุด แนวต้าน 1,627-1,630 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 31.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -1.55% มูลค่าซื้อขาย 2,473.01 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.88% มูลค่าซื้อขาย 2,118.20 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 172.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -1.99% มูลค่าซื้อขาย 2,109.83 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 682.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือ -1.73% มูลค่าซื้อขาย 1,733.66 ล้านบาท
BEM ปิดที่ 9.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.15 บาท หรือ +1.59% มูลค่าซื้อขาย 1,081.25 ล้านบาท