HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,634.35 จุด ลดลง 7.28 จุด ตามตลาดต่างประเทศ หวั่นเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ส่งบอนด์ยีลด์-เงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้น แนวโน้มภาคบ่ายคาดแกว่งในแดนลบ แนวรับ 1,635-1,631 แนวต้าน 1,640 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 6 ธ.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,634.35 จุด ลดลง 7.28 จุด หรือ -0.44% มูลค่าการซื้อขาย 31,237.83 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,640.87 จุด และต่ำสุด 1,633.52 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงตามตลาดสหรัฐ หลังตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาดี ส่งผลให้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้นด้วย อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกจากความคาดหวังจีนผ่อนคลายมาตรการคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ตลาดรับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มชิ้นอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP ได้ปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน ส่วนหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้ดีเป็นหุ้นในกลุ่มไฟแนนซ์ และการท่องเที่ยว พร้อมให้จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ที่จะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปีก่อน และติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) ส่วนต่างประเทศสัปดาห์นี้ให้ติดตามตัวเลขนำเข้า-ส่งออกเดือนพ.ย.ของจีน และดัชนีราคาผู้ผลิตของจีนที่จะออกมาในช่วงปลายสัปดาห์
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีแนวรับ 1,635-1,631 จุด แนวต้าน 1,640 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTTEP ปิดที่ 179.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.64% มูลค่าซื้อขาย 1,523.26 ล้านบาท
ADVANC ปิดอยู่ที่ 185.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ -1.59% มูลค่าซื้อขาย 1,452.75 ล้านบาท
KBANK ปิดที่ 141.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -0.70% มูลค่าซื้อขาย 1,329.12ล้านบาท
PTT ปิดที่ 33.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,119.57 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 754.00 บาท ลดลง 18.00 บาท หรือ -2.33% มูลค่าซื้อขาย 1,102.21 ล้านบาท