HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นปิดลบ 6.81 จุด พักตัวก่อนหยุดยาว สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศหลังดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง-ส่งกังวลเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 5,168.59 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,568.98 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์ อิงพักตัว แต่ขึ้นอยู่กับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐด้วย แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,650-1,660 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 2 ธ.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,641.63 จุด ลดลง 6.81 จุด หรือ -0.41% มูลค่าซื้อขาย 53,751.05 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,651.19 จุด ต่ำสุด 1,639.13 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 5,168.59 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 945.34 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 3,568.98 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 654.27 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้พักฐานหลังจากปรับขึ้นไปแรงเมื่อวานนี้ ก่อนจะหยุดระยะยาวด้วย ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน สอดคล้องกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็ติดลบเฉลี่ย 0.4-0.5% หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐมีทั้งดีและไม่ดี โดยล่าสุดดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐออกมาต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง สร้างความกังวลเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ดี ยังจะต้องรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐคืนนี้ และสัปดาห์หน้าติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจจะมีการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืน” และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศสำคัญที่จะทยอยประกาศออกมา รวมถึงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของจีนด้วย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์หน้าตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ ในลักษณะพักตัว แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวเลขการจ้างงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะออกมาเป็นอย่างไรด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650-1,660 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
DELTA ปิดที่ 772.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท หรือ +1.05% มูลค่าซื้อขาย 3,409.09 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 182.50 บาท ลดลง 3.50 บาท หรือ -1.88% มูลค่าซื้อขาย 2,570.73 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 64.75 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ -1.52% มูลค่าซื้อขาย 1,589.01 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 29.00 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.85% มูลค่าซื้อขาย 1,403.86 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 73.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.34% มูลค่าซื้อขาย 1,365.43 ล้านบาท