ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 737 จุด ประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com>> “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” ปิดพุ่ง ดัชนีดาวโจนส์ทะยาน 737 จุด กว่า 2.18% ดัชนี S&P500 บวก 3% Nasdaq พุ่ง 4% หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ กว่า 3.01% ยืนเหนือ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 34,589.77 จุด เพิ่มขึ้น 737.24 จุด หรือ 2.18% หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ยืนยันว่าเฟดจะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยจากที่ปรับขึ้นในเชิงรุกมาตลอดและมีผลต่อตลาด

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,080.11 จุด เพิ่มขึ้น 122.48 จุด, +3.09%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,468.00 จุด เพิ่มขึ้น 484.22 จุด, +4.41%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตชิปนำการปรับขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟต์ เพิ่มขึ้น 6.16% หุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 7.89% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 4.86% หุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 8.24% หุ้น AMD บวก 5.78% หุ้น Intel เพิ่มขึ้น 4.05%

นายพาวเวลได้กล่าวปาฐกถา ที่สถาบันบรู้กกิงส์เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ว่า “เป็นการสมเหตุสมผลแล้วที่จะลดอัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของเรา เพราะเราเข้าใกล้ระดับที่เพียงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง”

นายพาวเวลล์กล่าวอีกว่า “ช่วงเวลาสำหรับการลดความเร็วของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ในการประชุมเดือนธันวาคม”

แต่นายพาวเวลล์เตือนว่าเฟดอาจใช้นโยบายเข้มงวดอีกนานก่อนที่จะยุติการต่อสู้เงินเฟ้อ

“แม้จะมีแนวโน้มที่ดีบ้าง แต่ก็ยังเป็นเส้นทางที่ยาวไกลในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา”

คำกล่าวของนายพาวเวลล์ ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งหน้าในวันที่ 14 ธันวาคม หลังจากที่ปรับขึ้น 0.75% ติดกัน 4 ครั้งเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่สูง และส่งผลให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ยังกังวลสถานการณ์ประท้วงในจีน

การให้ความเห็นของนายพาวเวลล์เป็นปัจจัยหนึ่งที่โดดเด่นทามกลางการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ

กระทรวงแรงงานรายงานผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนตุลาคมว่าลดลง 353,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.33 ล้านตำแหน่ง จาก 10.69 ล้านตำแหน่งในเดือนกันยายนและต่ำกว่า 10.4 ที่นักวิเคราะห์คาด

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงาน การจ้างงานของภาคเอกชนเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 127,000 ตำแหน่ง ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และต่ำกว่า 190,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด

กระทรวงพาณิชย์รายงานประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตรมาสามครั้งที่ 2 ว่า ขยายตัว 2.9% สูงกว่า 2.6% ของประมาณการครั้งที่ 1 และสูงกว่า 2.7% ที่นักวิเคราะห์คาด

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales)เดือนตุลาคม ลดลง 4.6% เมื่อเทียบรายเดือน เป็นการลดลงเดือนที่ 5 ติดต่อกัน

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพฤศจิกายนในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 ตำแหน่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก โดยกลุ่มสินค้าในครัวเรือนบวก 2.3% นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหภาพยุโรปจะเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้าหลังจากการรายงานเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งยังคาดหวังว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการคุมโคงิด

เงินเฟ้อทั่วไปยูโรโซนเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบรายปีชะลอตัวจาก 10.6% ในเดือนตุลาคมและต่ำกว่า 10.4% ที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้น HSBC บวก 0.12% แม้ประกาศปิดสาขา 114 แห่งในอังกฤษและจะขายธุรกิจในนิวซีแลนด์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 440.04 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด, +0.63%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,573.05 จุด เพิ่มขึ้น 61.05 จุด, +0.81%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,738.55 จุด เพิ่มขึ้น 69.58 จุด, +1.04%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,397.04 จุด เพิ่มขึ้น 41.59 จุด, +0.29%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.35 ดอลลาร์ หรือ 3.01% ปิดที่ 80.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 85.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล