“จี สตีล” จ่อดำเนินคดีผู้ยักยอกเศษเหล็กทำสูญ 157 ล้าน เตรียมตั้งสำรองส่วนที่เหลือ 65 ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 61 พร้อมเข้าหารือกรมสรรพากรประเด็นภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีอากรที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลตัวเลขไปปรับปรุงงบการเงิน สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2560
บริษัท จี สตีล (GSTEL) แจ้งถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีอาญาจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดฯ) กรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็ก ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเดือนม.ค.-ส.ค.2560 เป็นจำนวนประมาณ 157 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการบริษัทมีการประชุม ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้พิจารณาและมีมติรับทราบข้อมูลการแถลงข่าวของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และจำนวนมูลค่าความเสียหาย และมีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหาร ดำเนินการตามกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ก่อความเสียหายต่อบริษัทต่อไป รวมถึงดำเนินการอันจำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจไปโดยปกติ
ทั้งนี้ จากมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น จำนวนประมาณ 157 ล้านบาท บริษัทได้บันทึกความเสียหายที่เกิดจากกรณีกระบวนการยักยอกเศษเหล็กในงบการเงิน สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 เป็นจำนวน 92 ล้านบาท ส่วนต่างที่เหลืออีก 65 ล้านบาท เป็นส่วนที่บริษัทได้จ่ายเงินค่าเศษเหล็กล่วงหน้า ในไตรมาสที่ 3 ปี 2560 และยังไม่ได้รับเศษเหล็ก บริษัทจะดำเนินการตั้งสำรองรายการดังกล่าวในงบการเงิน ไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561
นอกจากนี้ กรณีผลกระทบทางด้านภาษีอากร (ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีเงินได้นิติบุคคล และเบี้ยปรับเงินเพิ่ม) ที่อาจเกิดจากความเสียหายจากกรณีเศษเหล็กสูญหายจากกระบวนการยักยอกเศษเหล็ก และส่งผลกระทบต่อข้อมูล และตัวเลขทางบัญชีในงบการเงินของบริษัท สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 นั้น ตามที่ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่สรรพากรเบื้องต้น บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินการเข้าหารือกับกรมสรรพากร เพื่อให้ได้ข้อสรุปประเด็นภาระค่าใช้จ่ายด้านภาษีอากรที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลและตัวเลขไปปรับปรุงงบการเงิน สำหรับรอบปีบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560 และนำส่งงบการเงินหลังจากการปรับปรุงรายการต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
อ่านประกอบ