HoonSmart.com>>ตลาดทุนตื่นข่าวสะพัด “ปิงปอง-อภิมุข บำรุงวงศ์” เผ่นไปต่างประเทศแล้ว ทำบริษัทหลักทรัพย์ที่อมหุ้น MORE ไว้เต้น จ่ายค่าซื้อไปก่อน หลักประกันลดฮวบ หุ้นดิ่งฟลอร์ที่ห้า มีออเดอร์ขายค้างเติ่ง 316.7 ล้านหุ้นรวม 5 วัน มาร์เก็ตแคปเสียหาย 15,816 ล้านบาท เหลือแค่ 3,301 ล้านบาท รายย่อยเจ็บหนัก กลัวหุ้นมอร์ในพอร์ตไร้ค่า ด้านสมาคมหลักทรัพย์ดิ้นปิดช่องโหว่ จ่อขอให้โบรกเกอร์ออกนโยบายให้หุ้นที่เทรด P/E เกินกว่า 50 ใช้ Cash Balance เท่านั้น “มล.ทองมกุฎ” ปฎิเสธยันไม่ถึงขั้นนั้น ตอนนี้ให้แต่ละบริษัทตั้งเกณฑ์ดูแลกันเอง เลือกเข้มงวดหุ้นรายตัว
แหล่งข่าวใกล้ชิด บริษัท มอร์ รีเทิร์น (MORE) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวลือสะพัดว่า นาย อภิมุข บำรุงวงศ์ หรือปิงปอง ผู้ซื้อหุ้น MORE ล็อตใหญ่ผิดปกติวันที่ 10 พ.ย. และเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกอายัดทรัพย์สินรวม 444.6 ล้านบาท ได้หนีไปมาเลเซียแล้ว ไปพร้อมกับพรรคพวก เพื่อหลบหนีการสอบสวน และตกเป็นผู้ต้องหา ชักดาบซื้อหุ้นกับโบรกเกอร์มากกว่า 10 ราย ทำให้โบรกเกอร์มที่มีหุ้น MORE หลังจ่ายเงินค่าซื้อกับสำนักหักบัญชีแล้ว ต่างกังวลความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะนอกจากคนซื้อหนีไป ราคาหุ้นในตลาดยังดิ่งฟลอร์ติดต่อเป็นวันที่ห้า ล่าสุดวันที่ 23 พ.ย. ปิดที่ 0.48 บาท และยังมีโอกาสทรุดลงต่อ เนื่องจากมีคำสั่งขายค้างอยู่จำนวน 316.7 ล้านหุ้น ปัจจุบันมาร์เก็ตแคปเหลือเพียง 3,301 ล้านบาท ร่วงลงไปกว่า 15,816 ล้านบาท เทียบกับวันที่ 9 พ.ย. ยังมีมูลค่าสูงถึง 19,117 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทรัพย์สินของนายอภิมุขที่ถูกอายัด อยู่ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับบล.ไอร่า จำนวน 405.64 ล้านบาท และบล. จีเอ็มโอ-แซด คอม 39 ล้านบาท ณ วันที่ 20 พ.ย.2565
นอกจากนี้ นักลงทุนรายย่อยต่างเช็กข่าวจ้าละหวั่น เรื่องนายอภิมุขหนี และถอดใจเรื่องมูลค่าหุ้น MORE ในพอร์ตจะเสียหายเหลือศูนย์ เพราะราคาหุ้นฟลอร์ติดต่อกันไม่มีสัญญาณการฟื้นตัวเลย เรียกร้องให้ทางการ ทั้งก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึง ปปง. และตำรวจ นำตัวคนทำผิดมาลงโทษให้ได้
ขณะเดียวกันมีกระแสข่าวว่าสมาคมบริษัทหลักทรัพย์จะให้บริษัทหลักทรัพย์ทุกแห่งออกนโยบายให้นักลงทุนที่ลงทุนหุ้นที่เทรด P/E เกินกว่า 50 เท่า และมาร์เก็ตแคป/กำไรสุทธิ เกิน 50 เท่า โดยไม่สน Volume หรือ Turnover จะเป็นเท่าไร จะต้องใช้บัญชี Cash Balance เท่านั้น
ด้านหม่อมหลวง ทองมกุฎ ทองใหญ่ กรรมการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังไม่ได้มีอะไร ตอนนี้ให้แต่ละโบรกเกอร์ไปตั้งเกณฑ์การดูแลกันเอง ซึ่งจะเข้มงวดกับหุ้นตัวไหน
ในส่วนของบล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง มีการเพิ่มหุ้นที่จะใช้เกณฑ์ Cash Balance มากกว่าที่ตลาดประกาศ และมีมาตรการอื่นในการเข้าไปดู เพื่อพิจารณาการให้เครดิตกับลูกค้า อย่างหุ้นที่ติด Turnover list จะไม่ให้เครดิต ซึ่งเชื่อว่าหลายบริษัทหลักทรัพย์คงจะต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน
“ตอนนี้ให้แต่ละโบรกฯไปตั้งเกณฑ์กันเอง ยังไม่ได้มีมาตรการอะไรออกมาใช้ ซึ่งการเทรดด้วยการคิด P/E อย่างเดียว ไม่ได้บอกอะไรทุกอย่าง ต้องดูที่ Growth ด้วย ซึ่ง P/E จะต้องเข้ากันกับ Growth หากจะนำเกณฑ์ Cash Balance มาใช้กับหุ้นที่เทรด P/E เกิน 50 เท่าทุกตัว คงจะต้องทำการศึกษาผลกระทบก่อน เพราะอาจจะเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาดได้เหมือนกัน”
กรรมการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า กรณีของ MORE ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบความมั่นใจของนักลงทุน แต่ระบบของตลาดหลักทรัพย์ดีอยู่แล้ว การ Settle ไม่มีผิดพลาด ทำได้ตามปกติ จับได้ก่อนที่เงินจะออกไป ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอะไรที่ทำได้เร็วมาก