HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์พุ่ง 397 จุด รับผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งดีกว่าคาด พร้อมคาดหวังเฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่มาก มองข้ามจีนคุมเข้มมาตรการสกัดโควิด-19 ด้านราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น 0.91 ดอลลาร์ ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 34,098.10 จุด เพิ่มขึ้น 397.82 จุด หรือ 1.18% นักลงทุนมองข้ามการใช้มาตรการเข้มงวดของจีนเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 และหันไปสนใจการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ยไม่มาก
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,003.58 จุด เพิ่มขึ้น 53.64 จุด, +1.36%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,174.41 จุด เพิ่มขึ้น 149.90 จุด, +1.36%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับเพิ่มขึ้นของหุ้นเบสต์บาย 12.8% หลังผลการดำเนินงานดีกว่าคาดและปรับเพิ่มคาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2023 ทั้งปี รวมไปถึงหุ้น Abercrombie & Fitch และหุ้น American Eagle ที่เพิ่มขึ้น 21.4% และ 18.2% ตามลำดับ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง ขณะที่นักลงทุนประเมินการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อจับสัญญานการขึ้นดอกเบี้ย
โดยนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดดูดีขึ้น และสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยในขนาดที่ลดลงในการประชุมเดือนธันวาคม ซึ่งหมายถึงว่า ดอกเบี้ยจะอยู่ระหว่าง 4-5% ในอีกไม่นาน แม้เฟดยังให้ความสำคัญกับการดึงเงินเฟ้อให้ต่ำลง
ขณะที่นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้ กล่าวว่า เฟดยังจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในในระดับที่สูงขึ้นและคงดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวเป็นเวลานานขึ้น เพื่อชะลอความต้องการของผู้บริโภคและดึงเงินเฟ้อลง
นอกจากนี้การปรับขึ้นของกลุ่มพลังงานก็มีผลต่อตลาด หลังจากกลุ่มโอเปกยืนยันว่า ยังคงลดกำลังการผลิต
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่เพิ่มขึ้น 4.7% ขณะที่นักลงทุนยังคงวิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ และเกาะติดความเคลื่อนไหวของสหรัฐและประเทศในเอเชียแปซิฟิกหลังจากจีนใช้มาตรการเข้มงวดในการคุมโควิด เพราะเป็นแรงกดดันทางเศรษฐกิจ
องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุว่า ยุโรปจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อันเป็นผลจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสงครามรัสเซียกับยูเครน
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนเดือนพฤศจิกายนปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -23.9 จาก -27.5 ในเดือนตุลาคม และสูงกว่า -26.0 ตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 436.22 จุด เพิ่มขึ้น 3.16 จุด, +0.73%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,452.84 จุด เพิ่มขึ้น 75.99 จุด, +1.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,657.53 จุด เพิ่มขึ้น 23.08 จุด, +0.35%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,422.35 จุด เพิ่มขึ้น 42.42 จุด, +0.29%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 80.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 88.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล