ดาวโจนส์ปิดลบ 45 จุด วิตกจีนคุมโควิดเข้ม

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบท่ามกลางซื้อขายผันผวน ก่อนอ่อนตัวในช่วงท้ายชั่วโมงของการซื้อขาย วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยหลังการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 33,700.28 จุด ลดลง 45.41 จุด หรือ 0.13% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนก่อนที่จะอ่อนตัวในช่วงท้ายของชั่วโมงซื้อขาย ด้วยความวิตกต่อการขึ้นดอกเบี้ยจากการให้ความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการเข้มงวดของจีนเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้สัปดาห์นี้ตลาดยังปิดทำการในวันพฤหัสบดีเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่ในวันศุกร์ชั่วโมงการซื้อขายจะมีเพียงครึ่งวัน

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,949.94 จุด ลดลง 15.40 จุด, -0.39%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,024.51 จุด ลดลง 121.55 จุด, -1.09%

นักลงทุนยังเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนทั้ง เบสต์บาย นอร์ดสตรอม และดอลลาร์ ทรี

นางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวในงานเสวนาเมื่อวานนี้ (21 พ.ย.) ว่า คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก และอาจจะปรับขึ้นไปถึงระดับกว่า 5% หากเงินเฟ้อไม่ชะลอตัวลง และชี้ว่าการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะไม่ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนธันวาคมนั้นเป็นการคาดการณ์ที่เร็วเกินไป

นอกจากนี้นางลอเร็ตต้า เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาตลีฟแลนด์ ให้ความเห็นว่า การขึ้นดอกเบี้ยยังมีอย่างต่อเนื่อง แต่ครั้งต่อไปอาจจะขึ้นน้อยกว่าเดิม

นักลงทุนยังรอการให้ความเห็นของนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์ หลุยส์ในวันอังคาร

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อคุมการระบาดของโควิดในจีนอีกครั้ง ทำให้กังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากที่คาดหวังว่าจีนจะเปิดประเทศ และยังทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานและราคาน้ำมันดิบลดลง บวกกับมีรายงานข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียและสมาชิกโอเปกกำลังหารือกันเกี่ยวกับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.99% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.96% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 1.58% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 2.41%

หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ เพิ่มขึ้น 6.30% หลังบริษัทตั้งนายบ็อบ ไอเกอร์ ให้กลับมาดำรงตำแหน่งซีอีโออีกครั้งหลังจากที่ลาออกไปเมื่อ 11 เดือนก่อน ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ต่างลดลง 2.6% กลบการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่ม defensive ทั้งธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม และเฮลธ์แคร์ จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการใช้มาตรการเข้มงวดของจีนในการคุมการระบาดของโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนยังคงประเมินแรงกดดันเงินเฟ้อ และการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายประเทศ

ฟิลิป เลน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางสหภาพยุโรปหรือ ECB ให้ความเห็นว่า การประชุมของECB ในเดือนธันวาคมจะยังขึ้นดอกเบี้ยอีก แต่คงไม่ถึง 0.75%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.06 จุด ลดลง 0.27 จุด, -0.06%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,376.85 จุด ลดลง 8.67 จุด, -0.12%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,634.45 จุด ลดลง 10.01 จุด, -0.15%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,379.93 จุด ลดลง 51.93 จุด, -0.36%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 79.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 87.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล