ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด ผวาบอนด์ยิลด์พุ่งสูงสุด 7 ปี

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงแรง ดัชนีดาวโจนส์ทรุดหนักกว่า 300 จุด เจอแรงกดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ตัวเลขเศรษฐกิจดีเกินคาด เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไป

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง วันที่ 4 ต.ค. 2561 ล่าสุดทรุดตัวลง 316 จุดรับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(บอนด์ยีลด์)

ณ เวลา 23.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 26,512.34 จุด ทรุด 316.24 จุด หรือ 1.18%

ดัชนี S&P 500 อยู่ที่ 2,897.72 จุด รูดลง 27.79 จุด หรือ 0.95%

Nasdaq อยู่ที่ 7,858.63 จุด ติดลบ 166.46 จุด หรือ 2.07%

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง รับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด และนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ณ เวลา 21.20 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 3.19% หลังจากแตะระดับ 3.232% ก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2554

ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.35% หลังจากแตะระดับ 3.375% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2557

ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 49 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 207,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2512 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะแตะระดับ 213,000 ราย

นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 3.8%

เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนส.ค. โดยเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.9% ในเดือนส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8%