TH-MTC-SAWAD นำดิ่งกลุ่มไฟแนนซ์ กังวล NPL – การแข่งขันสูง

HoonSmart.com>>หุ้น TH-MTC-SAWAD-TIDLOR นำดิ่งกลุ่มไฟแนนซ์ โบรกฯปรับลดคำแนะนำจากความกังวล NPL ที่เข้ามาเรื่อย ๆ และการแข่งขันยังเข้มหลังแบงก์ออมสินออกผลิตภัณฑ์มาดึงดูดลูกค้า ภาพรวมยังมีความเสี่ยง แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงแต่ยังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุน เพราะไตรมาส 4/65 หวั่นตั้งสำรองฯเพิ่มจากแนวโน้ม NPL คาดยังเป็นขาขึ้นหลังหมดช่วงเวลาช่วยเหลือ

เมื่อเวลา 10.45 น.หุ้น TH ร่วง 7.98% มาอยู่ที่ 3.46 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 183.68 ล้านบาท
หุ้น MTC ลบ 4.11% มาอยู่ที่ 35.00 บาท ลดลง 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 341.81 ล้านบาท
หุ้น SAWAD ลบ 4.05% มาอยู่ที่ 41.50 บาท ลดลง 1.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 339.79 ล้านบาท
หุ้น TIDLOR ลบ 2.83% มาอยู่ที่ 25.75 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 155.57 ล้านบาท

นายปรเมศร์ ทองบัว รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้ากลยุทธ์และกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน สายงานวิจัย บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ราคาหุ้นในกลุ่มเช่าซื้อเช้านี้ต่างปรับตัวลงกัน คาดว่าจะเป็นผลมาจากความกังวล NPL ที่ยังเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ เห็นได้ในไตรมาส 2-3 ปี 65 และการแข่งขันก็ยังไม่จบ โดยทางแบงก์ออมสินก็ออกผลิตภัณฑ์มาดึงดูดลูกค้าไป ซึ่งทางแบงก์ออมสินก็คิดดอกเบี้ยให้กับลูกค้าในอัตราที่ต่ำมาก ภาพรวมของกลุ่มไฟแนนซ์จึงยังมีความเสี่ยง จึงได้ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นในกลุ่มนี้

นอกจากนี้ ยังมองว่าแม้ราคาหุ้นจะปรับตัวลงแต่ก็ยังไม่ใช่จังหวะในการเข้าลงทุน เพราะไตรมาส 4/65 ก็ยังมีความเสี่ยงที่อจจะต้องมีการตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้น และ NPL ก็ยังมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นด้วย

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ปรับลดคําแนะนําหุ้นบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) เป็น“ขาย” จากที่ SAWAD มีความเสี่ยงมากกว่าจากการขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ และการกลับรายการสำรอง จึงมองว่า NPL coverage ต่ำเกินไป โดย SAWAD มีแนวโน้มซื้อขายด้วยมูลค่าส่วนลดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์สูงกว่า NPL ที่ต่ำที่สุด และ ROE ที่ต่ำกว่า จึงลดคาดการณ์กำไรปี 65-66 เพื่อสะท้อนต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น โดยราคาเป้าหมายลดลงเหลือ 40 บาท (P/BV ปี 66 ที่ 2.0 เท่า, P/E 12 เท่า) จาก 52 บาท

SAWAD ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ 23% เนื่องจากคิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด และมีความเสี่ยงมากที่สุดในสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสินเชื่อต่ำในระยะแรก แต่คาดว่าต้นทุนสินเชื่อจะเพิ่มขึ้นเมื่อพอร์ตสินเชื่อครบกำหนด และสินเชื่อเช่าซื้อบางส่วน แปรสภาพเป็น NPL ทั้งนี้ ต้นทุนสินเชื่อของอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8-10% สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งมองว่างบดุลของ SAWAD ยังไม่พร้อมรับมือ เนื่องจากมีปริมาณการตั้งสำรองที่น้อยและสัดส่วนสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูง และผลตอบแทนสูงที่เพิ่มขึ้น จึงปรับลดคาดการณก์าไรปี 65-66 ลง 5-9% เพื่อสะท้อน opex และต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น

บล.ฟินันเซีย มองหุ้นบริษัท เงินติดล้อ (TIDLOR) แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/65 คาดยังชะลอตัว Q-Q โดยยังคงถูกกดดันจาก Credit Cost และค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่ยังเร่งขึ้นตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ที่ลดลง แนวโน้ม NPL คาดว่ายังเป็นขาขึ้นหลังหมดช่วงเวลาช่วยเหลือ โดยคาดพีคในไตรมาส 2/66 จึงคาดกำไรปี 2565-2566 +7% Y-Y และ +13% ตามลำดับ และคงราคาเป้าหมายที่ 32 บาท และแนะนำ“ซื้อ”แต่เชิงกลยุทธ์ยังไม่น่าสนใจและไม่จำเป็นต้องรีบเข้าลงทุน