ดาวโจนส์ปิดลบ 39 จุด กำไรค้าปลีกไม่สดใส

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบ ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 39 จุด ท่ามกลางการซื้อขายเงียบเหงา หลัง “ทาร์เก็ต” บริษัทค้าปลีกรายใหญ่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าคาด ส่งสัญญาณไตรมาสสุดท้ายของปีอาจไม่สดใส แม้ข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 1.33 ดอลลาร์ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟากตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 16พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 33,553.83 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.12% ท่ามกลางการซื้อขายที่เงียบเหงา หลังทาร์เก็ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่รายงานผลประกอบการไตรมาสสามที่ต่ำกว่าคาด และเตือนว่าไตรมาสสุดท้ายของปีอาจจะไม่สดใส ในขณะที่ใกล้จะถึงเทศกาลวันหยุดปลายปี แม้ข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมจะเพิ่มขึ้น
      
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,958.79 จุด ลดลง 32.94 จุด, -0.83%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,183.66 จุด ลดลง 174.75 จุด, -1.54%

ทาร์เก็ตรายได้ผลการดำเนินงานต่ำกว่าคาด ราคาหุ้นลดลง กว่า13% และกดดันหุ้นค้าปลีกรายอื่น โดยหุ้นโลว์ส ลดลงราว 3% หุ้นเมซีส์ หุ้นนอร์ดสตรอม หุ้นเบสท์ บายต่างลดลงกว่า 8% หุ้นโคห์ลส์ ลดลงกว่า 7%

กระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดค้าปลีกเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.3% สูงกว่า 1.0% ที่นักวิเคราะห์คาด และหากไม่รวมยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 1.3% ดีกว่า 0.6% ที่นักวิเคราะห์คาด

เจฟฟ์ คิลเบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ KKM Financial ให้ความเห็นว่า ฤดูกาลการรายงานผลการดำเนินงานที่ผันผวนของกลุ่มค้าปลีกทำให้นักลงทุนเลือกที่จะลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก เพราะส่วนต่างของกลุ่มค้าปลีกแบบค้าส่งและกลุ่มค่าปลีกแบบเฉพาะทางยังคงเพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.7% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลงมาที่ 4.35%

เดวิด เมริเคิล จากโกลด์ แมนแซคส์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม และปรับขึ้นครั้งละ 0.25% ในเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคม ส่งผลให้ fed fund rate แตะ 5-5.25%

นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟดกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้พิจารณาที่จะลดขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็น 0.50% ได้อย่างสบายใจมากขึ้น แต่ก็ยังไม่คิดว่าเงินเฟ้ออ่อนตัวลงแล้ว

นักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์จากสถานการณ์ยูเครน องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และโปแลนด์ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์นั้น จะเป็นขีปนาวุธของระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ยิงสกัดขีปนาวุธของรัสเซีย
      
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นเมอร์เซเดส เบนซ์ กรุ๊ป ขณะที่การคาดการณ์ยอดขายที่ไม่สดใสจากทาร์เก็ต บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ทำให้กังวลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่เงินเฟ้อของอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังมีความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างรัสเซียกับยูเครนจะขยายผลออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน หลังขีปนาวุธรัสเซียตกในโปแลนด์

หุ้นเมอร์เวเดส เบนซ์ กรุ๊ป บริษัทรถหรูลดลง 6.2% ปรับราคารถ EQE และ EQS บางรุ่นลด ในจีนเพราะความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าระดับบนมีมากขึ้น

เงินเฟ้ออังกฤษยังสูงสุดในรอบ 41 ปีเพิ่มขึ้น 11.1% ในเดือนตุลาคม จากระยะเดียวกันของปีก่อน จากราคาพลังงานที่สูงขึ้น และเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 2% และสูงกว่าที่คาด

นักลงทุนรอการรายงานเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนตุลาคมในวันพฤหัสบดี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 430.17 จุด ลดลง 4.27 จุด, -0.98%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,351.19 จุด ลดลง 18.25 จุด,-0.25%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,607.22 จุด ลดลง 34.44 จุด, -0.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,234.03 จุด ลดลง 144.48 จุด, -1.00%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 85.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคมลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 92.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล