HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 56 จุด หลังรายงานดัชนี PPI เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ชี้สัญญาณชะลอตัวลง แต่ตลาดหุ้นขึ้นได้จำกัดจากความตึงเครียดสถานการณ์การเมืองระหว่างรอบใหม่ หลังรัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามไปตกในโปแลนด์ ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ ฟากตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 15พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 33,592.92 จุด เพิ่มขึ้น 56.22 จุด หรือ +0.17% หลังการรายงานเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด และเป็นสัญญาณว่าชะลอตัวลง แต่การปรับขึ้นของตลาดถูกจำกัดด้วยความตึงเครียดด้านสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศรอบใหม่
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,991.73 จุด เพิ่มขึ้น 34.48 จุด, +0.87%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,358.41 จุด เพิ่มขึ้น 162.19 จุด, +1.45%
ดัชนี ราคาผู้ผลิต(Producer Price Index-PPI) เดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบรายปี ชะลอตัวลงจาก 8.5% ในเดือนกันยายน และต่ำกว่า 8.3% ที่นักวิเคราะห์คาด
เมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.2% ต่ำกว่า 0.4% ที่นักวิเคราะห์คาด ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 6.7% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 7.2% ที่นักวิเคราะห์คาด ซึ่งเป็นสัญญาณว่าแรงกดดันเงินเฟ้อชะลอตัวลง และส่งผลให้ตลาดปรับตัวขึ้น
ไมค์ โลเวนการ์ต จาก มอร์แกน สแตนเลย์ กล่าวว่า ข้อมูล PPI ล่าสุดยิ่งตอกย้ำความเชื่อที่ว่าเงินเฟ้ออยู่ในช่วงขาลงแล้ว
นักกลยุทธ์ จากBespoke Investments ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนธันวาคม แทนที่จะเป็น 0.75% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของกลุ่มค้าปลีกที่ดีกว่าคาดทั้ง วอลมาร์ท โฮมดีโป ซึ่งรอสส์ เมย์ฟิลด์ จาก Baird กล่าวว่า สะท้อนว่าผู้บริโภคยังแข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่ตึงตัว
หุ้นวอลมาร์ท เพิ่มขึ้น 6.62% หุ้นโฮม ดีโป บวก1.63% หุ้นทาร์เก็ต เพิ่มขึ้น 3.31% หุ้นโลว์ส เพิ่มขึ้น 2.03%
แต่ตลาดอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายหลังมีรายงานของสำนักข่าวเอพีหน่วยข่าวกรองสหรัฐว่า ขีปนาวุธของรัสเซียข้ามไปตกในโปแลนด์ และมีผู้เสียชีวิตสองราย ทำให้นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ประชุมด่วน
นอกจากนี้นักลงทุนยังเกาะติดการเมืองระหว่างประเทศหลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนสหรัฐฯพบปะกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 1.4% หลังรายงานเงินเฟ้อสหรัฐเดือนตุลาคมต่ำกว่าคาด ทำให้คาดหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะผ่อนคลายการปรับขึ้นดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังเกาะติดแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคและเศรษฐกิจโลก
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ZEW เยอรมนี เผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้นมาที่-36.7 จาก -59.2 ในเดือนตุลาคม ดีกว่า -50.0 ที่นักวิเคราะห์
ในอังกฤษอัตราว่างงานรอบสามเดือนสิ้นสุดเดือนกันยายนเพิ่มขึ้นมาที่ 3.6% จาก 3.5% ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม และมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 74,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคมมาที่ระดับสุงสุดเป็นประวัติการณ์ 29.8 ล้านตำแหน่ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 434.44 จุด เพิ่มขึ้น 1.58 จุด, +0.37%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,369.44 จุด ลดลง 15.73 จุด,-0.21%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,641.66 จุด เพิ่มขึ้น 32.49 จุด, +0.49%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 14,378.51 จุด เพิ่มขึ้น 65.21 จุด, +0.46%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 86.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 93.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล