HoonSmart.com>>ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,630.37 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด ตอบรับเงินเฟ้อสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าตลาดคาด เล็งเฟดชะลอเร่งขึ้นดอกเบี้ย ส่งบอนด์ยีลด์-เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ผลักดันสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้น แนวโน้มภาคบ่ายยืนในแดนบวกได้ แนวรับ 1,610 จุด แนวต้าน 1,650 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 11 พ.ย.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,630.37 จุด เพิ่มขึ้น 11.14 จุด หรือ +0.69% มูลค่าการซื้อขาย 48,396.34 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,640.03 จุด และต่ำสุด 1,629.57 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี ตอบรับเงินเฟ้อของสหรัฐออกมาขยายตัวต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้เชื่อว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดพีคไปแล้ว และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงจะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.แค่ 0.50% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐอ่อนตัวลง ล่าสุดอยู่ที่ 3.8% จากเดิมอยู่แถว 4% และเงินดอลลาร์สหรัฐล่าสุดก็อ่อนค่าลง ขณะที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอยู่ใกล้ระดับ 36 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ผลักดันให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างปรับตัวขึ้น
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และเกาะติดตัวเลขเศรษฐกิจช่วงโค้งสุดท้ายของปีหลังจากที่ได้มีการเปิดประเทศแล้วจะเป็นอย่างไร
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายตลาดคงจะยืนในแดนบวกได้ และควรจะยืน 1,630 ให้อยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,610 จุด แนวต้าน 1,650 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
AOT ปิดที่ 75.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.67% มูลค่าซื้อขาย 2,065.61 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 628.00 บาท เพิ่มขึ้น 22.00 บาท หรือ +3.63% มูลค่าซื้อขาย 2,063.83 ล้านบาท
MINT ปิดที่ 31.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ +4.20% มูลค่าซื้อขาย 1,809.71 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 188.00 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือ -0.79% มูลค่าซื้อขาย 1,491.72 ล้านบาท
TLI ปิดที่ 14.80 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ -3.90% มูลค่าซื้อขาย 1,246.83 ล้านบาท