ดาวโจนส์ปิดทรุด 646 จุด ผลเลือกตั้งกลางเทอมไม่ชัดเจน บิตคอยน์ร่วง

HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นสหรัฐ 3 แห่งกอดคอกันดิ่ง ดาวโจนส์ทรุด 646 จุด ผลเลือกตั้งกลางเทอมไม่ชัดเจนว่าพรรคไหนจะคุมเสียงในสภาคองเกรส ราคาบิตคอยน์ร่วง นักลงทุนรอตัวเลขเงินเฟ้อเดือนต.ค. ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 7.9% ส่วนหุ้นยุโรปปรับตัวลง  หุ้นกลุ่มพลังงานติดลบตามราคาน้ำมันดิบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 32,513.94 จุด ลดลง 646.89 จุด หรือ 1.95% หลังผลการเลือกตั้งเทอมไม่ชัดเจนว่าพรรคไหนจะคุมเสียงในสภาคองเกรส และหลังการเทขายในสกุลเงินคริปโท ในขณะนักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,748.57 จุด ลดลง 79.54 จุด, -2.08%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,353.18 จุด ดิ่งลง 263.03 จุด, -2.48%

ตลาดอ่อนตัวไปที่ระดับต่ำสุดหลังราคาบิตคอยน์ร่วงไปที่ระดับต่ำสุดใหม่ หลัง Binance ประกาศยกเลิกซื้อกิจการเว็บเทรด FTX เป็นผลจากการทำ due diligence และจากรายงานว่า FTX บริหารเงินลูกค้าผิดพลาดและถูกทางการสอบสวน

การตัดสินใจของ Binance มีผลต่อความเชื่อมั่นโดยรวม และกระทบกลุ่มเทคโนโลยี

หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโทลดลง โดยหุ้นคอยน์เบส ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ลดลง 5.3%

ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากปรับตัวขึ้นติดกัน 3 วัน เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคไหนจะได้ครองเสียงข้างมากในสภาคองเกรส จากที่นักลงทุนคาดว่าพรรครีพับลิกันจะคว้าชัยในการเลือกตั้งกลางเทอม ซึ่งจะคานอำนาจในการออกนโยบายภาษีหรือแผนการใช้จ่ายกับฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน

NBC ประเมินว่า พรรครีพับลิกันจะคว้าที่ 222 ที่นั่งซึ่งจะมากกว่าพรรคเดโมแครตเล็กน้อย

ผลการเลือกตั้งกลางเทอมยังใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นหลายวันหรือหลายสัปดาห์ แต่นักวิเคราะห์ไม่ได้คาดหวังว่าตลาดจะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่

แบร์รี กิลเบิร์ต จาก LPL Financial ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดว่าผลการเลือกตั้งจะมีทางบวกต่อตลาด เท่าที่ตลาดประเมินผลกระทบของนโยบายน่าจะมีน้อย และผู้เล่นในตลาดจะยังคงให้ความสำคัญกับนโยบายของธนาคารกลาง(เฟด)และเงินเฟ้อมากกว่า

นักลงทุนรอการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค( Consumer Price Index -CPI) เดือนตุลาคม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบรายปีจาก 8.2% ในเดือนกันยายน ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานยังไม่เข้าใกล้กรอบเป้าหมาย

รีเบกกา เฟลตัน จากRiverFront Investment Group กล่าวว่า เงินเฟ้อพื้นฐานจะยังสูงกว่า 2% เป้าหมาย จึงไม่เชื่อว่าเฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในระยะสั้น ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับสูงอีกนาน และแรงกดดันเงินเฟ้อจะยังสูงนานเช่นกัน

หุ้นเมตา แพลตฟอร์มเพิ่มขึ้น 5.18% หลังประกาศปลดพนักงานมากกว่า 11,000 คน หรือคิดเป็น 13% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด

หุ้นดิสนีย์ลดลงกว่า 13% จากผลการดำเนินงานไตรมาสสามที่ต่ำกว่าคาด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นที่อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่ลดลง 2% ขณะที่นักลงทุนรอผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯที่ยังไม่แน่นอน และจากความกังวลต่อภาวะเงินเฟ้อ

ผลสำรวจธนาคารกลางยุโรปพบว่าผู้บริโภคยังมองว่าเงินเฟ้อเดือนกันยายนจะยังปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้การคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจและรายได้ลดลง

นอกจากนี้นักลงทุนยังรอการรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ เพื่อประเมินว่าการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐฯมีผลต่อเงินเฟ้อแค่ไหน

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 1.8% จากราคาน้ำมันดิบลดลง หลังปริมาณน้ำมันสำรองของสหรัฐฯสูงกว่าคาด และกังวลว่าการติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ในจีนจะกระทบความต้องการ

ตลาดยังเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

หุ้น Commerzbank ธนาคารใหญ่อันดับสองของเยอรมนีลดลง 8.2% จากกำไรไตรมาสสามที่น่าผิดหวังลดลงถึง 52% และต้นทุนในปี 2024 จะสูงกว่าที่ประเมินไว้
หุ้น ABN Amro ธนาคารในเนเธอร์แลนด์เพิ่มขึ้น 4.4% หลังกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
หุ้น Marks & Spencer ในอังกฤษลดลง 3.4% หลังเตือนเกี่ยวกับต้นทุนที่สูงขึ้นและแรงกดดันจากการจำกัดการใช้จ่ายของครัวเรือน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 420.34 จุด ลดลง 1.27 จุด, -0.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,296.25 จุด ลดลง 9.89 จุด, -0.14%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,430.57 จุด ลดลง 10.93 จุด, -0.17%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,666.32 จุด ลดลง 22.43 จุด, -0.16%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 3.08 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 85.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 2.71 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 92.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล