HoonSmart.com>> “พีทีที โกลบอล เคมิคอล” เปิดงบไตรมาส 3/65 พลิกขาดทุน 13,384 ล้านบาท จากงวดปีก่อนกำไร 7,005 ล้านบาท ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลงฉุดงบรวม ขณะที่รายได้จากการขายยังเติบโตแตะ 181,536 ล้านบาท ฉุดงวด 9 เดือนขาดทุนสุทธิ 7,784 ล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ขาดทุนสุทธิ 13,384.18 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 2.97 บาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 7,005.21 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.56 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 7,784.25 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 1.73 บาท ลดลง 119% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 41,734.81 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.30 บาท
ในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 181,536 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% จากไตรมาส 3/2564 เป็นผลมาจากราคาขายของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งการเริ่มรับรู้ผลประกอบการของ allnex เข้ามาในปีนี้ ในขณะที่ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2565 เนื่องจากผลของราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลงจากอุปสงค์ของตลาดได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจถดถอยและสภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก โดยกลุ่มธุรกิจที่มีรายได้ปรับตัวลดลงหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้น
ด้านค่าใช้จ่ายผันแปรเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า นอกเหนือจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายผันแปรของ allnex ยังเกิดจากต้นทุนราคาพลังงานที่ใช้ในกระบวนการผลิตปรับเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเนื่องจากในไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ มีการหยุดซ่อมบำรุงของโรงโอเลฟิ นส์หน่วยที่ 3
ค่าใช้จ่ายในการผลิตคงที่และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าและไตรมาส 3/2564 จากค่าใช้จ่ายที่เริ่มรับรู้ในช่วงปีนี้ของ allnex เป็นสำคัญ และค่าใช้จ่ายในการบริการด้านพลังงานเพิ่มขึ้น 293 ล้านบาท ขณะที่ค่าเสื่อมราคาในไตรมาส 3/2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการรับรู้ค่าเสื่อมราคาของ allnex เป็นสำคัญ
นอกจากนี้มีเหตุขัดข้องการเตรียมสินค้าคงคลังในไตรมาส 3/2565 จากการบันทึกประมาณการค่าเสียหายของสินค้า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการกอบกู้ของเหตุการณ์ขัดข้องการเตรียมดำเนินการโครงการคลังสินค้าจำนวน 851 ล้านบาทเป็นสำคัญ
ด้านค่าใช้จ่ายทางการเงินปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยเนื่องจากดอกเบี้ยจ่ายจากการจัดหาเงินกู้เพิ่มขึ้นจากการออกหุ้นกู้ของบริษัทฯ ในเดือนมิถุนายน 2565 เป็นสำคัญ
บริษัทฯ มีการรับรู้ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/2565 จำนวน 4,426 ล้านบาท จากทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าขึ้นจากสิ้นไตรมาส 2/2565 อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีกำไรจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงิน 1,128 ล้านบาท จากการทำสัญญาคุ้มครองความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทำให้มีผลขาดทุนสุทธิจากอัตราแลกเปลี่ยนและตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่ 3,298 ล้านบาท
นอกจากนี้ในไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลงเหลือ 306 ล้านบาท ลดกว่า 76% จากไตรมาส 2/2564 มีจำนวน 1,295 ล้านบาทและลดลง 83% จากไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 1,833 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลประกอบการที่อ่อนตัวลงในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปรับลดลง