HoonSmart.com>> “ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” กำไรไตรมาส 3/65 ลดเหลือ 1,156 ล้านบาท วูบกว่า 64% ราคาถุงมือยางปรับลดลง ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางอยู่ในช่วงปรับสมดุลหลังโควิดเริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ ด้านรายได้อยู่ที่ 29,359 ล้านบาท เติบโต 3.1% คาดแนวโน้มการดำเนินงานไตรมาสสุดท้าย มีปริมาณขายยางแท่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ได้รับปัจจัยหนุนจากซัพพลายในประเทศอินโดนีเซียลดลง
บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิ 1,155.88 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.75 บาท ลดลง 64.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,230.78 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.10 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2565 กำไรสุทธิ 3,807.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.48 บาท ลดลง 73.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 14,232.99 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 9.27 บาท
นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี (STA) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 มีรายได้เติบโตในระดับที่น่าพอใจ โดยทำรายได้จากการขายและบริการ 29,359 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงขึ้นกว่า 5.0% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหลักมาจากรายได้และปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ยางแท่งที่เพิ่มขึ้น ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 1,156 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,231 ล้านบาท เนื่องจากการปรับลดลงของราคาถุงมือยาง ตามความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่อยู่ในช่วงการปรับสมดุล หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 เริ่มคลี่คลายในหลายประเทศ
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ สามารถทำรายได้จากการขายและบริการ 85,332 ล้านบาท ลดลง 5.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากราคาขายเฉลี่ยของถุงมือยางที่ปรับตัวลดลงตามสภาวะตลาด ในขณะที่ปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ยางแท่งยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นกว่า 20.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามกำลังการผลิตที่เพิ่มมากขึ้นตามแผนการลงทุนที่ทยอยแล้วเสร็จในปีนี้ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,807 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 14,233 ล้านบาท เนื่องจากราคาขายเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ถุงมือยางลดลง
“ภาพรวมอุตสาหกรรมยางธรรมชาติ สำหรับผลิตภัณฑ์ยางแท่งในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีดีมานด์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยางแท่งมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 65,439 บาทต่อตัน ส่วนการใช้น้ำยางข้นชะลอตัวลง ขณะที่ดีมานด์ในกลุ่มถุงมือยางอยู่ในช่วงการปรับสมดุล หลังจากมีซัพพลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา” นายวีรสิทธิ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร STA กล่าวต่อว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/2565 คาดว่าจะมีปริมาณการขายยางแท่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนลงทุนขยายกำลังการผลิตยางอย่างต่อเนื่องเป็น 3.34 ล้านตันต่อปีภายในปี 2567 จากปัจจุบันอยู่ที่ 2.41 ล้านตันต่อปี เพื่อผลักดันการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และรองรับการเคลื่อนย้ายดีมานด์บางส่วนจากอินโดนีเซีย ซึ่งประสบปัญหาของซัพพลายที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปัญหาโรคใบร่วงในต้นยาง อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์ราคาเฉลี่ยยางธรามชาติในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีซัพพลายในประเทศไทยออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะมีปริมาณการขายยางธรรมชาติทุกประเภทรวม 1.55 ล้านตันในปีนี้ ใกล้เคียงเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะเดินหน้าลงทุนขยายกำลังการผลิตยางแท่งอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในตลาดโลกและรักษาความเป็นผู้นำธุรกิจยางธรรมชาติครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของโลกอย่างแข็งแกร่ง