บล.ดีบีเอสฯ ชี้ RATCH เลื่อนเปิดโรงไฟฟ้าเซเปียนกระทบกำไรปี 62

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมิน RATCH เลื่อนเปิดโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยในประเทศลาว จากเดือนก.พ.62 เป็นปลายปี 62 กระทบกำไรสุทธิ แผนซื้อกิจการเพิ่มอาจชดเชยไม่ทัน แนะรอซื้อหุ้นช่วงอ่อนตัวแถว 50 บาท

บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์กรณีบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) เลื่อนเปิดโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 410 MW ว่า การเลื่อนเปิด COD โครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยเป็น Downside Risk ของประมาณการกำไรสุทธิปี 62 แม้ว่าบริษัทจะมีการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม แต่ก็อาจจะเข้ามาชดเชยไม่ทัน นอกจากนั้นยังมีความเสี่ยงเรื่องค่าปรับว่าบริษัทจะต้องจ่ายหรือไม่ด้วย ในเชิงเทคนิค ราคาหุ้นลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน จึงมีโอกาสอ่อนลงมาที่แนวรับ 50+/- บาท หรือต่ำกว่า กลยุทธ์ เน้นซื้ออ่อนตัว สำหรับราคาพื้นฐานเฉลี่ยใน IAA Consensus อยู่ที่ 59.75 บาท

ทั้งนี้กรณีที่มีข่าวว่า โรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อยในประเทศลาว ขนาดกำลังการผลิต 410 MW อยู่ระหว่างรอรัฐบาลลาวตรวจสอบข้อเท็จจริงของสาเหตุเขื่อนดินกั้นช่องเขาส่วน D แตกเมื่อ 23 ก.ค.61 ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ใกล้เคียง และโครงการต้องเลื่อนการจ่ายไฟฟ้าออกไปจากกำหนดการเดิมเดือนก.พ.62 เป็นปลายปี 62

ทาง RATCH กำลังเจรจากับ EGAT ถ้าหากต้องจ่ายค่าปรับที่โรงไฟฟ้าเปิดดำเนินการล่าช้ากว่าแผน ซึ่งหากจัดให้เป็นอุบัติเหตุก็อาจไม่ต้องเสียค่าปรับ

สำหรับผู้ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าเซเปียน-เซน้ำน้อย ประกอบด้วย RATCH 25%, SK Engineering & Construction (เป็นผู้รับเหมาโครงการนี้) 26%, Korea Western Power 25% และรัฐบาลลาว 24%

ทาง RATCH อยู่ระหว่างการซื้อกิจการโรงไฟฟ้ากว่า 200 MW ในออสเตรเลีย และกำลังเจรจาอีกหลายโครงการในอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ โดยก่อนหน้าบริษัทย่อย RATCH เข้าซื้อหุ้น RATCH-Australia Corporation เพิ่มเป็น 100% (เดิม 80%) ซึ่งโครงการดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว มีกำลังการผลิต 200 MW

สำหรับราคาหุ้น RATCH ณ เวลา 11.39 น. อยู่ที่ 50.75 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.98% มูลค่าการซื้อขาย 30.91 ล้านบาท