HoonSmart.com>>หุ้น KLINIQ ปิดเทรดวันแรกที่ 41.50 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 69.39% บล.ดาโอ คาดกำไรสุทธิปี 64-66 CAGR สูงถึง 46% สาหรับปี 65 คาดกำไรสุทธิที่ 195 ล้านบาท (+51% YoY) และปี 66 ประเมินกำไรสุทธิที่ 275 ล้านบาท (+41% YoY) จากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่ม พร้อมประเมินราคาเป้าหมาย 30.00 บาท
หุ้น KLINIQ ปิดเทรดวันแรกที่ 41.50 บาท เพิมขึ้น 17.00 บาท หรือ +69.39% จากราคาขาย IPO ที่ 24.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 5,563.35 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 36.00 บาท ขึ้นสูงสุด 41.50 บาท และต่ำสุด 35.50 บาท
บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ประเมินบริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) กำไรสุทธิปี 64-66 CAGR สูงถึง 46% สาหรับปี 65 คาดกำไรสุทธิที่ 195 ล้านบาท (+51% YoY) และปี 66 ประเมินกำไรสุทธิที่ 275 ล้านบาท (+41% YoY) จากการเติบโตของรายได้ในทุกกลุ่ม โดยเฉพาะ The Klinique ที่เติบโตสูงต่อเนื่องจากการขยายสาขา (ปี 65/66 เปิดเพิ่ม 7/5 สาขาตามลำดับ) และปรับเพิ่มโปรแกรมการรักษาให้ครอบคลุมความต้องการผู้ใช้บริการ และยังมี upside จากลูกค้าต่างชาติ พร้อมประเมินราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท อิง 2566 PER 23.6x ต่ากว่า ค่าเฉลี่ย peer กลุ่ม รพ. เนื่องจากมองว่า KLINIQ ให้บริการเฉพาะในกลุ่ม Aesthetic, Wellness และศัลยกรรมความงามเท่านั้น เทียบกับกลุ่ม โรงพยาบาลที่มีบริการครอบคลุมในทุกด้าน
KLINIQ เป็นผู้นาด้านเวชกรรมและสุขภาพครบวงจรของไทย ชอบ KLINIQ จาก 4 ปัจจัยหลัก 1) เป็นผู้นำด้านเวชกรรมความงามและสุขภาพครบวงจรของไทย ซึ่งให้บริการลูกค้ามายาวนานกว่า 13 ปี โดยมีโปรแกรมการรักษากว่า 50 โปรแกรม และมีจานวนสาขามากถึง 39 สาขาครอบคลุม 15 จังหวัด ทั่วทุกภาค ของไทย, 2) Brand Awareness ที่แข็งแกร่ง มีฐานลูกค้ามากถึง 200,000 ราย 3) quality service การทำหัตถการส่วนใหญ่จะทำโดยแพทย์ผู้ชานาญการ (เทียบกับคู่แข่งในตลาดที่ทำโดยพยาบาล) อีกทั้งยังมี segmentation ที่ชัดเจน และ 4) มี strategic partners เป็นห้างดังของไทย ช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าของ KLINIQ