SNNP ปักหมุดเวียดนาม ฐานผลิต-ส่งออก CLMV ดันผลงานโตก้าวกระโดด

HoonSmart.com>>”ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง”  ตัดริบบิ้นโรงงาน S.T.Food Marketing ในเวียดนาม เรือธงใหม่ ฐานการผลิตในกลุ่ม CLMV ….ปักหมุดยอดขายเวียดนามปี 69 ทะลุ 2,000 ล้านบาท ดัน  SNNP  รายได้รวมโตก้าวกระโดด 

ฐากร ชัยสถาพร

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) ทำพิธีเปิดโรงงานของ บริษัท S.T.Food Marketing Co.,Ltd ในประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นบริษัทย่อย โดยมีบริหารระดับสูง , กงศุลไทย , พนักงาน และสื่อมวลชน ร่วมพิธีเปิด

นายฐากร ชัยสถาพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP) เปิดเผยว่า โรงงานในเวียดนาม เป็น 1 โรงงานในกลุ่มบริษัททั้งหมด 6 โรงงานใน 3 ประเทศ ประกอบด้วยโรงงานไทย 4 โรงงาน , กัมพูชา 1 โรงงาน และเวียดนาม 1 โรงงาน

สำหรับโรงงาน S.T.Food Marketing ในเวียดนาม เริ่มเดินสายการผลิตครั้งแรก 27 ก.ย. 2565 เปิดการค้าเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการไตรมาส 4/65  ผลิตขนมปังแท่งขาไก่ “โลตัส” ส่วนไตรมาส 1/2566 เริ่มผลิตเบนโตะ และไตรมาส 3/66 ผลิตเจเล่ ซึ่งปี 2566 เป็นต้นไป โรงงานเวียดนาม จะเริ่มสร้างรายได้เติมเข้ามาให้ SNNP  เติบโตก้าวกระโดด ตั้งเป้าหมายเป็นศูนย์กลางผลิต-จำหน่ายในตลาด CLMV ซึ่งเวียดนามจะสร้างรายได้การส่งออก 50% ของรายได้ส่งออก ผลักดันสัดส่วนการส่งออกต่างประเทศขยับขึ้นมาเป็น 2 หลัก จากปัจจุบันส่งออกไม่มาก และดันยอดขายรวมของ SNNP เติบโตเกิน 8,000 ล้านบาท ในปี 2566

“โรงงานเวียดนาม ช่วยสนับสนุนรายได้และกำไรของ SNNP ให้เติบโตต่อเนื่อง เป็นฐานการผลิตและศูนย์กระจายสินค้าที่สำคัญไปต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต เป้าหมายยอดขายในเวียดนามปี 2569 ทะลุ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโตมากถึง 7 เท่าภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเวียดนามมีประชากรราว 99 ล้านคน เป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ อีกทั้งคนเวียดนาม นิยมสินค้าของ SNNP” นายฐากร กล่าว

นายฐากร กล่าวอีกว่า รูปแบบการตั้งโรงงานในต่างประเทศ ได้ปรับเปลี่ยนมาเป็น Full System คือ การสร้างโรงงาน เพื่อเป็นศูนย์การผลิต-จำหน่าย , มีตัวแทนจำหน่าย , มีจุดจำหน่าย จากเดิมใช้รูปแบบส่งออกเพียงอย่างเดียว หรือการร่วมทุน มีพนักงานขาย มีจุดจำหน่าย แต่ไม่มีโรงงาน

นายวิโรจน์ วชิรเดชกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานธุรกิจในประเทศ SNNP กล่าวเสริมว่า ปี 2566  กำไรขั้นต้น SNNP จะขยับขึ้น จากการออกเบนโตะ ขนาดใหญ่ขึ้น ราคา 30 บาท ในปี 2565 ซึ่งที่ผ่านมา ราคาเบนโตะซองละ 5 บาท 10 บาท กำไรไม่มาก การออกขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มาร์จิ้นขยับขึ้นเรื่อย ๆ

ปัจจุบันเบนโตะ และเจเล่ เป็นสินค้าขายดี  สัดส่วนของรายได้อย่างละ 40% และขาไก่ 20%  รายได้ขายส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทย 80% และ 20% ส่งขายใน CLMV