ดาวโจนส์ปิดทรุด 505 จุด ประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดร่วง ดัชนีดาวโจนส์ทรุด 505 จุด หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ด้านประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ ชี้เงินเฟ้อยังสูงเกินไป ดัชนี S&P500 ลดลง 2.50% Nasdaq -3.36% น้ำมันดิบ WTI ปรับเพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หนุนราคาปิด 90.00 ดอลลาร์ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ปิดที่ 32,147.76 จุด ลดลง 505.44 จุด 1.55% หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่าเงินเฟ้อยังสูงเกินไปและส่งสัญญานจะขึ้นดอกเบี้ยอีก

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,759.69 จุด ลดลง 96.41 จุด, -2.50%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,524.80 จุด ลดลง 366.05 จุด, -3.36%
      
ที่ประชุมเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% และนายพาวเวลล์กล่าในการแถลงข่าวว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ “เรายังต้องเดินหน้าต่อ และข้อมูลที่เข้ามาหลังจากการประชุมครั้งก่อนบ่งชี้ว่าระดับสูงสุดของดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่คาดไว้” และเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
      
ในช่วงแรกตลาดปรับตัวขึ้นหลังการขึ้นดอกเบี้ยด้วยแถลงการณ์ของเฟดบ่งชี้การปรับนโยบายในอนาคต “ในการกำหนดจังหวะการขึ้นดอกเบี้ยในกรอบเป้าหมาย คณะกรรมการจะคำนึงถึงผลของการใช้นโยบายการเงินเข้มงวด ผลของนโยบายการเงินต่อกิจกรรมเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่ต้องใช้เวลา และสภาวะเศรษฐกิจและการเงิน
      
แต่ความคาดหวังของนักลงทุนถูกดับจากการแถลงข่าวของนายพาวเวลล์
      
แจ๊ค แมคอินไทร์ จากBrandywine Global กล่าวว่า น้ำเสียงของนายพาวเวลล์ยังเป็นนโยบายที่ค่อนข้างเข้มงวด ซึ่งหมายความว่าเฟดยังต้องต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระดับดอกเบี้ยจะสูงกว่าที่เคยคาดไว้ และไม่มีสัญญานว่าจะผ่อนคลายที่จะบ่งชี้ว่าเฟดจะเริ่มชะลอขึ้นดอกเบี้ย
      
ไมเคิล กาเพน จากBank of America กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ไม่ได้ป็นการประชุมเพื่อตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย แต่เป็นการประชุมเกี่ยวแนวทางนโยบายในอนาคตและสิ่งที่คาดว่าจะเจอในเดือนธันวาคมและหลังจากนั้น

เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังการเผยแพร่แถลงการณ์ของเฟด โดยดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.7% มาที่ 110.73

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 3.97% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลงมาที่ 4.44%    

หุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง โดยหุ้นแอมะซอน หุ้นเน็ตฟลิกซ์ หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ต่างลดลงเกือบ 5% หุ้นเทสลา ลดลง 5.64% หุ้นเซลส์ฟอร์ซ ลดลง 6.14% หุ้นอัลฟาเบท หุ้นแอปเปิลต่างลดลงกว่า 3%

การตัดสินใจด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดเกิดขึ้นหลังจากการรายงานข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่ง โดยข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีเกินคาดในเดือนตุลาคม สะท้อนภาพตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานการจ้างงานของภาคเอกชนเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 239,000 ตำแหน่ง จาก 192,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน และสูงกว่า 195,000 ตำแหน่ง ที่นักวิเคราะห์คาด    

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนตุลาคมในวันศุกร์นี้

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มสินค้าในครัวเรือนที่ลดลง 1.7% ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) และยังเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

ในช่วงแรกตลาดเปิดบวก แต่อ่อนตัวลงหลังเอสแอนด์พี โกลบอลรายงาน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนเดือนตุลาคม ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.4 ต่ำสุดในรอบ 29 เดือน จาก48.4 ในเดือนกันยายน และยังหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

หุ้น Maersk ธุรกิจชิปปิ้งยักษ์ใหญ่ลดลง 4.5% หลังเตือนเกี่ยวกับความต้องการด้านขนว่งและโลจิสติกส์ชะลอตัวลง เพราะเศรษฐกิจโลกจ่อที่จะถดถอย
หุ้น GSK ผู้ผลิตรายใหญ่ของอังกฤษบวก 1% หลังปรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2022 เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือน หลังผลกำไรไตรมาสสามดีกว่าคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 413.39 จุด ลดลง 1.22 จุด, -0.29%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,144.14 จุด ลดลง 42.02 จุด, -0.58%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,276.88 จุด ลดลง 51.37 จุด, -0.81%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,256.74 จุด ลดลง 82.00 จุด, -0.61%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 90.00 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 96.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล