HoonSmart.com>>หุ้น BTG เปิดเทรดวันแรก ปิดที่ 36.25 บาท ต่ำกว่าจอง มีกรีนชู รอซื้อคืนในตลาด สถาบันไทย-ต่างประเทศจองซื้อหุ้นลงทุน 7,285 ล้านบาท บริษัทระดมทุน ต่อยอดกลยุทธ์การสร้างการเติบโตผ่านการขยายการลงทุนตลอดห่วงโซ่คุณค่าเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าสูง แสวงหาโอกาสลงทุนธุรกิจใหม่ (New S-Curve) สร้างการเติบโตยั่งยืนในอนาคต บล.ทรีนีตี้ให้เป้าปี 66 ที่ 63 บาท บล.กสิกรไทยเผย Consensus ชี้ราคา 56.5-71.5 บาท
หุ้นบริษัท เบทาโกร (BTG) บริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่มีโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันแรก (2 พ.ย.2565) เปิดที่ราคา 39.75 บาท และปิดที่ระดับ 36.25 ต่ำกว่า ราคาขาย IPO ที่ 40 บาท/หุ้น
บล.ทรีนีตี้ เป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เบทาโกร แนะนำ “ซื้อ” โดยบริษัทฯเข้าตลาดหุ้น จะนําเงินไปลงทุนขยายธุรกิจตามแผน จึงคาดกำไรปี 2565 ที่ 8,370 ล้านบาท เติบโต 728% YoY จะเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ และยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2566-2567 โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ที่ 63 บาท อิง PER ของธุรกิจที่เทียบเคียงกันที่ 14.1 เท่า
บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า BTG Consensus ประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานอยู่ในช่วง 56.5-71.5 บาท
นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร เปิดเผยว่า เบทาโกร ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้น โดยได้รับความสนใจและกระแสตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งนักลงทุนประเภทบุคคลธรรมดาในประเทศไทย ท่ามกลางสภาวการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนที่มีความผันผวนสูง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงศักยภาพในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากล ด้วยโมเดลธุรกิจแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ประกอบกับมีแบรนด์สินค้าที่มีคุณภาพและมีความหลากหลายซึ่งได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 20 ประเทศทั่วโลก ตลอดจนกระบวนการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทเบทาโกรมีเป้าหมายมุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวผ่านแผนการลงทุนสำหรับ 5 ปีต่อจากนี้ (ปี 2565 – 2569) เพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เช่นขยายกำลังการผลิตตลอดห่วงโซ่คุณค่า โดยมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตในอีก 5 ปีข้างหน้า ประกอบด้วย อาหารสัตว์เป็น 5.5 ล้านตันต่อปี อาหารแปรรูปและไส้กรอก 223,000 ตันต่อปี โรงงานแปรรูปสุกร 4.8 ล้านตัว และโรงงานแปรรูปไก่เนื้อ 270 ล้านตัว รวมถึงการมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
“การนำหุ้น BTG เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะผลักดันธุรกิจของเบทาโกรให้เติบโตไปอีกขั้น จากแผนการนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจ ความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ความสามารถในการดึงดูดผู้บริหารและทีมงานมืออาชีพตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงยกระดับมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) ซึ่งจะนำมาสู่โอกาสในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในอนาคต เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย” นายวสิษฐ กล่าวเสริม
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ BTG มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 500 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน) ที่ราคาเสนอขาย 40 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 20,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน-กรีนชู) ขึ้นแท่นเป็นหุ้น IPO ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุดในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหารของประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย และยังมีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีนี้ มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ประมาณ 80,000 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมีสถาบันไทยและต่างประเทศ ที่เป็น Cornerstone Investorsจองซื้อหุ้นทั้งหมด 182 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 7,285 ล้านบาท