STANLY กำไร 487 ลบ. โต 82% อุตฯยานยนต์กลับมาผลิตเพิ่มหลังโควิด

HoonSmart.com>> “ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า” เปิดกำไรไตรมาส 2/65 (สิ้นสุด 30 ก.ย.) โชว์ 487 ล้านบาท เติบโต 82% จากงวดปีก่อน กวาดยอดขาย 3,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% หลังอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาผลิตเพิ่มขึ้นหลังโควิด-19 หนุนงวด 6 เดือนกำไร 804 ล้านบาท โต 23%

บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 (1 ก.ค.-30 ก.ย.2565) มีกำไรสุทธิ 486.70 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 6.35 บาท เพิ่มขึ้น 82.19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 267.15 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 3.49 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2565 กำไรสุทธิ 804.11 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 10.49 บาท เพิ่มขึ้น 23.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 650.63 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 8.49 บาท

ในช่วงไตรมาส 2/2565 บริษัทฯมียอดขายและการผลิตกลับมาเพิ่มขึ้นในระดับ Economical of Scale ของการผลิตและมีการพัฒนาด้านประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการควบคุมของเสียและค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างเข้มงวด

บริษัทฯ มียอดขาย 3,551.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 533.59 ล้านบาท หรือ 17.68% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดขาย 3,017.62 ล้านบาท เป็นผลจากอุตสาหกรรมยานยนต์กลับมาผลิตเพิ่มขึ้น หลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 และการขาดแคลนชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตยานยนต์และอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ

รถยนต์มีการผลิตจำนวน 493,926 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดการผลิต 367,034 คัน เพิ่มขึ้น 34.57% โดยมียอดการส่งออกจำนวน 256,800 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดส่งออก 203,992 คัน เพิ่มขึ้น 25.89% ขณะเดียวกันยอดขายภายในประเทศมีจำนวน 206,391 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดขาย 156,215 คัน เพิ่มขึ้น 32.12%

ส่วนรถจักรยานยนต์มียอดการผลิต 540,327 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดการผลิต 274,181 คัน เพิ่มขึ้น 97.07% และมียอดขายในประเทศ 455,947 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2564 มียอดขาย 329,926 คัน เพิ่มขึ้น 38.20%