ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 828 จุด หวังเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

HoonSmart.com> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่ง 828 จุด กว่า 2.59% ดัชนี S&P500 +2.46% Nasdaq +2.87% หลังข้อมมูลเศรษฐกิจบ่งชี้เงินเฟ้อชะลอตัวลง มุการบริโภคทรงตัว นักลงทุนมองบวกต่อเฟดมากขึ้นอาจไม่ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ประชุมพ.ย.นี้ ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ทรงตัวที่ 6.2% ราคาน้ำมันดิบลดลง 1.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นักลงทุนรอประเมินผลหลัง ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.75%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 28 ตุลาคม2565 ปิดที่ 32,861.80 จุด เพิ่มขึ้น 828.52 จุด หรือ 2.59% แม้แอมะเซอนลดลง หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวและการบริโภคของผู้บริโภคทรงตัว

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,901.06 จุด เพิ่มขึ้น 93.76 จุด, +2.46%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,102.45 จุด เพิ่มขึ้น 309.78 จุด, +2.87%

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์บวก 5.7% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 3.9%และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.2%

หุ้นแอมะซอนลดลง 6.8% หลังรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสามต่ำกว่าคาด และมีมุมมองต่อไตรมาสสี่ที่น่าผิดหวัง ส่วนหุ้นแอปเปิลบวก 7.5% แม้รายได้จากไอโฟนต่ำกว่าคาดแต่กำไรและรายได้รวมของไตรมาสสามดีกว่าคาด

นักลงทุนมีความหวังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออาจจะอ่อนตัวลงแล้ว ทำให้มีมุมมองทางบวกมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยไม่ถึงมากถึง 0.75% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายน

กระทรวงแรงงานรายงาน ดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงานเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี ทรงตัวจากที่เพิ่มขึ้น 6.2% ในเดือนสิงหาคม และต่ำกว่า 6.3% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายเดือน เพิ่มขึ้น 0.3% จากที่เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนสิงหาคม

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่า 5.2% ที่นักวิเคราะห์คาด แต่สูงกว่า 4.9% ในเดือนสิงหาคม และเมื่อเทียบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.5% จากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม

รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนก่อนหน้า ส่วนการใช้จ่ายของผูบริโภคเพิ่มขึ้น 0.6% สูงกวา 0.4% ที่นักวิเคราะห์คาดทั้งสองตัว

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) รายงาน ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนกันยายนลดลง 10.2% เมื่อเทียบรายเดือน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุยายน 2010 ต่ำกว่าการลดลง 4% ที่นักวิเคราะห์คาด และเมื่อเทียบรายปี ดัชนีลดลง 31%

การเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะลดแรงกดดันในการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ซึ่งจะประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

ตลาดยังได้แรงหนุนจากการผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเชฟรอน, เอ็กซอน โมบิล

บริษัท 263 แห่งในดัชนี S&P500 รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 แล้ว ซึ่ง 73% สูงเกินคาด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานและกลุ่มค้าปลีกที่ลดลง 2% นักลงทุนยังคงประเมินผลจากการขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ของธนาคารกลางสหภาพยุโรป(ECB) และเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

GDP ไตรมาสสามของเยอรมนีขยายตัวเกินคาด โดยเพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 0.2%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 410.76 จุด เพิ่มขึ้น 0.57 จุด, +0.14%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,047.67 จุด ลดลง 26.02 จุด, -0.37%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,273.05 จุด เพิ่มขึ้น 29.02 จุด, +0.46%,

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,243.33 จุด เพิ่มขึ้น 32.10 จุด, +0.24%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ -1.3% ปิดที่ 87.9 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนืองวดส่งมอบเดือน ลดลง 1.19 ดอลลาร์ หรือ -1.2% ปิดที่ 95.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล