KLINIQ เคาะราคา 24.50 บาท เปิดจอง 28 ต.ค.- 1 พ.ย.นี้

HoonSmart.com>> KLINIQ เคาะราคาขายไอพีโอที่ 24.50 บาท เปิดจอง 28 ต.ค.-1 พ.ย.นี้  ชูจุดแข็งขยายสาขาได้เร็ว-ไร้หนี้-แบรนด์สตรอง

นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมสายงานวาณิชธนกิจ ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย)  (DAOL) ที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม  (KLINIQ) เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) หุ้นละ 24.50 บาท จำนวน 60 ล้านหุ้น จองซื้อวันที่ 28 ต.ค.-  1 พ.ย.  2565  คาดเข้าซื้อขายในตลาด เอ็ม เอ ไอ (mai) เดือนพ.ย.นี้  ชื่อย่อ  “KLINIQ” ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ

“มั่นใจว่า KLINIQ จะได้รับการตอบรับที่ดี  ในฐานะผู้นำธุรกิจสุขภาพและความงามครบวงจร และเป็นคลินิกเจ้าแรกที่เข้าระดมทุนในตลาดหุ้น จากโมเดลธุรกิจ Asset Light ขยายสาขาได้รวดเร็ว ต้นทุนไม่สูง คืนทุนได้ภายใน 2-3 ปี อีกทั้งทีมผู้บริหารให้ความสำคัญวินัยทางการเงิน  ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง ไร้หนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย อีกทั้งแบรนด์ THE KLINIQUE  มีความแข็งแกร่ง ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ ทำให้มีรายได้สม่ำเสมอ (Recurring Income) หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่ง”

สำหรับผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรก ของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 714.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.26% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 451.59 ล้านบาท

กำไรสุทธิ  100.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.03% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 60.00 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 129.25 ล้านบาท

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม (KLINIQ) กล่าวว่า วัตถุประสงค์การระดมทุนทุน เตรียมนำเงินไปขยายสาขาคลินิกเวชกรรม ราว 6-10 สาขาต่อปี ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่ และหัวเมืองรอง ประมาณ 950 ล้านบาท คาดคืนทุนทุนภายใน 2-3 ปี ส่วนศูนย์ศัลยกรรม ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท คืนทุนภายใน 3-4 ปี

นอกจากนี้ ยังเตรียมนำเงินไปใช้สำหรับจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการแพทย์ ขยายกิจการศูนย์ศัลยกรรม และพัฒนาระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของฝ่ายสนับสนุน โดยในส่วนของการพัฒนาระบบ IT งบลงทุนอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานได้ภายในปี 2566 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนประมาณ 270 ล้านบาท

“เรามั่นใจว่า โมเดลธุรกิจ Asset Light และฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่ง หลังเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก อีกทั้งแบรนด์ THE KLINIQUE ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม เห็นได้จากจำนวนลูกค้าที่มีกว่า 2 แสนราย ที่กลับมาใช้ซ้ำ ทำให้มี Recurring Income และจากแผนการขยายสาขา จะทำให้บริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ผลักดันแนวโน้มผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง” นายแพทย์อภิรุจ กล่าวในที่สุด