HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,594.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด ช่วงเช้าย่อตัวก่อนดีดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อสูง-บอนด์ยีลด์พุ่ง-เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ปัจจัยนอกปท.กดดัน แต่เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวได้ โดยกลุ่มธนาคารช่วยหนุน แนวโน้มภาคบ่ายคาดทรงตัวถึงปรับขึ้นได้บ้าง แนวรับ 1,580 แนวต้าน 1,600 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 20 ต.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,594.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 32,885.42 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,594.06 จุด และต่ำสุด 1,579.78 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงเช้าดัชนีได้ย่อตัวลงเล็กน้อยและดีดกลับขึ้นมา ทิศทางนอกประเทศที่ไม่เด่น โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ถอยลงเป็นส่วนใหญ่ แต่ตลาดในแถบอาเซียนจะเห็นได้ว่า GDP ยังเติบโต ทำให้ทั้งตลาดหุ้นไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์ ยังสามารถยืนได้แดนบวกได้ ท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อสูง, อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับขึ้น รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นอ่อนค่าลง ปัจจัยนอกประเทศจึงยังกดดันตลาดอยู่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศเศรษฐกิจฟื้นตัวได้
ทั้งนี้ ดัชนีฯสามารถดีดกลับขึ้นไปได้จากบริเวณ 1,580 จุด แสดงให้เห็นว่าตลาดยังสู้อยู่ แต่วอลุ่มเทรดน้อย ตลาดช่วงนี้จึงเล่นยากหลังที่ขึ้นไปเร็ว เพราะดัชนีฯขึ้นจาก 1,550 จุด ขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุดในเวลาไม่นาน ทำให้นักลงทุนบางส่วนซื้อขายไม่ทันก็เลยชะลอการซื้อขายไปบ้าง อีกทั้งปลายสัปดาห์นี้ก็จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดระยะยาวอีก ทำให้บางคนชะลอการลงทุนก่อน
อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มธนาคารเริ่มเข้ามาช่วยหนุนตลาด หลังงบไตรมาส 3/65 ของ KKP ออกมาดีกว่า และ TISCO ก็ออกมาอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี รวมถึงใน 1-2 วันนี้จะมีงบฯออกมาหลายธนาคาร ซึ่งถ้ากำไรออกมาไม่แย่และมีดีกว่าคาด ก็จะหนุนการลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ เพราะหุ้นเล่นในโซนล่างมานาน พร้อมให้จับตาผลการประชุมกสทช.อย่างใกล้ชิดในวันนี้ กรณีการควบกิจการ DTAC-TRUE
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายทรงตัวถึงปรับขึ้นได้บ้าง พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
BBL ปิดที่ 144.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.49% มูลค่าซื้อขาย 2,763.74 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 626.00 บาท ลดลง 44.00 บาท หรือ -6.57% มูลค่าซื้อขาย 2,684.85 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 172.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท หรือ +2.08% มูลค่าซื้อขาย 1,883.49 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.69% มูลค่าซื้อขาย 861.96 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 186.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.54% มูลค่าซื้อขาย 803.86 ล้านบาท