โดย…สุนันท์ ศรีจันทรา
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต้องปากกาหักกันอีกครั้ง เพราะส่วนใหญ่ประเมินว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันที่ 2 ต.ค. จะต้องพุ่งขึ้นต่อเนื่อง ขยับเข้าไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1,780 จุด แต่กลับพลิกผัน โดยหลังเปิดการซื้อขาย ดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ทรุดลง จนปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,748.09 จุด ลดลงถึง 12.38 จุด
ปัจจัยที่ทำให้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ ประเมินแนวโน้มตลาดในทิศทางเดียวกันคือ ดัชนีดาวโจนส์ วันจันทร์พุ่งขึ้นกว่า 192 จุด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ในตลาดเวสท์เท็กซัสขยับกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการลงทุน โดยไม่มีข่าวร้ายกระทบตลาด
นักลงทุนต่างชาติ แม้เทขายหุ้นมาตั้งแต่ต้นปี แต่ช่วงนี้เริ่มทยอยกลับมาซื้อ
สถานการณ์ทุกอย่างเป็นใจให้ดัชนีฯ เดินหน้าต่อ โดยเป้าหมายรอบนี้คือ 1,800 จุด
แต่ไม่มีอะไรที่แน่นอนในตลาดหุ้น สิ่งที่นักลงทุนไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้ เช่นเดียวกับภาวะการณ์ซื้อขายเมื่อวาน ซึ่งเซียน ๆ ฟันธงว่า ดัชนีฯ จะต้องเป็นตัวเขียว แต่เขียวได้ชั่วแวบเดียวเท่านั้น ก่อนจะดิ่งลงจนหลุดระดับ 1,750 จุด อีกครั้ง
ปัจจัยลบ ที่อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยาการลงทุน แม้จะมีบ้าง เพราะตลาดหุ้นฮ่องกง ถูกถล่ม ดัชนีฮั่งเส็ง ทรุดฮวบลงกว่า 662 จุด หรือ 2.38% แต่นักลงทุนรายย่อยไม่ได้เกิดอาการตื่นตระหนกแต่อย่างใด ยังซื้อขายหุ้นตามปกติ
แต่ความเคลื่อนไหวที่ไม่ปกติ คือ นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งกลับมาเทขายหุ้นอย่างหนัก โดยมียอดขายสุทธิ 3,273.82 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนสถาบันในประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นกองทุนรวม เทขายหุ้นตามมาอีก 2,743.30 ล้านบาท
2 นักลงทุนขาใหญ่ในตลาดหุ้น มียอดขายสุทธิรวมกัน 6,106.12 ล้านบาท ไม่นับรวมพอร์ตโบรกเกอร์ที่ขายสุทธิอีก 268.26 ล้านบาท
นักลงทุนรายย่อย กลายเป็นผู้รับเละ รับแรงขายจากนักลงทุนทั้งสามกลุ่มแต่เพียงผู้เดียว
การหลุดระดับ 1,750 จุด อาจนำไปสู่สัญญาณในทางลบต่อตลาดหุ้น ตามหลักวิเคราะห์ทางเทคนิค ขณะที่นักลงทุนรายย่อย อาจเสียขวัญจากตลาดที่ผันผวนแรง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
แนวโน้มการลงทุนระยะสั้น กลับมาสู่สถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ และอาจเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การที่ดัชนีฯ จะไต่ระดับจนทะลุ 1,800 จุดนั้น มีอุปสรรคขนาดไหน
เพราะแม้จะมีความพยายาม ที่จะตีฝ่าขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,800 จุด อยู่หลายรอบ แต่ต้องถอยกลับลงมาทุกที โดยไม่รู้ว่า รอบนี้จะถอยตั้งหลักที่ระดับใด และปีนี้ จะมีโอกาสเห็นดัชนีฯทะลุ 1,800 จุดอีกหรือไม่
การลงทุนในตลาดหุ้นไม่มีความแน่นอนจริง ๆ ความพลิกผันเมื่อวานนี้ เป็นสิ่งตอกย้ำให้นักเก็งกำไร ต้องไม่ยืนอยู่ในความประมาท และระมัดระวังตัวตลอดเวลา พร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ พร้อมชิงจังหวะทำกำไร เมื่อได้โอกาส
ต่างชาติกลับมาขายหนักรอบนี้ คงมีเหตุผลและมีมุมมองแนวโน้มตลาดหุ้นที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่า คงไม่ได้มองแนวโน้มการลงทุนระยะสั้นสดใสแน่
สิ่งที่ต้องจับตากันอย่างเกาะติดกันต่อไป คือ ต่างชาติจะถล่มขายต่อหรือไม่ เพราะถ้ายังขายหนัก ๆ อีก ดัชนีฯ คงไม่มีโอกาสโงหัวขึ้น
หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะเครือข่ายปตท. ซึ่งน่าจะขยับขึ้นขานรับราคาน้ำมัน แต่กลับถูกเทขายจนรูดกันเป็นแถว ทั้งที่มีข่าวดีสนับสนุน
เมื่อวานนี้ ต้องถือว่า ฝรั่งเล่นทีเผลอ ถล่มหุ้นขณะที่นักลงทุนรายย่อยกำลังเพลินกับบรรยากาศเก็งกำไร และทำให้ต้องกลับมารับแรงขายของฝรั่งอีกครั้ง