HoonSamrt.com>>บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ Sideway Down จากแรงกดดันตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด สนับสนุนคาดการณ์เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,530-1,590 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์น้ำท่วม จากการตกแต่งซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม พร้อมชู 8 หุ้นเด่น GLOBAL-DOHOME-HMPRO- TOA-DPAINT-COTTO-DCC-TASCO น่าลงทุน
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ยังแกว่งตัวผันผวน Sideway Down โดยยังคงถูกกดดันจากปัจจัยตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.2%YoY สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 8.1%YoY ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.4%MoM สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 0.3%MoM และตัวเลขยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค. ซึ่งจะสนับสนุนให้คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงต่อไป
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.5 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 85.61 ดอลลาร์/บาร์เรล และร่วงลง 7.6% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยตลาดถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นและความต้องการพลังงานมีแนวโน้มอ่อนแอลง และทางสมาคมโรงแรมไทยเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรมเดือนก.ย.2565 พบอัตราการเข้าพักลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 44% เทียบกับเดือนส.ค.2565 อยู่ที่ 48% โดยโรงแรม 61% ยังมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยต่ำกว่าอัตราการเข้าพักที่คุ้มทุน จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีอยู่ในกรอบ 1,530-1,590 จุด
ส่วนปัจจัยที่ยังต้องจับตา อาทิ วันที่ 12 – 21 ต.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารส่งงบการเงินงวด 3Q65 วันที่ 19-21 ต.ค. รมว.คลังเป็นประธานการประชุมและเจ้าภาพจัดประชุมรมว.คลังเอเปค วันที่ 25 ต.ค. กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า และสัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และปัจจัยต่างประเทศ อาทิ วันที่ 19 ต.ค. อียู รายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันที่ 1-2 พ.ย. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐรอบหน้า
กลยุทธ์การลงทุนแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเหตุการณ์น้ำท่วม เพราะมีการตกแต่งซ่อมแซมบ้านหลังน้ำท่วม ได้แก่ GLOBAL, DOHOME, HMPRO, TOA, DPAINT, COTTO, DCC และ TASCO รวมทั้งหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ได้ประโยชน์จากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยและสัปดาห์นี้จะประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2565 ออกมาดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ BBL, KBANK, KTB และ SCB
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่าในสัปดาห์นี้จับตาแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ เนื่องจากการประชุมกลุ่มโอเปก พลัส รอบล่าสุด มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงราว 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ย. ส่งผลให้ราคาน้ำมันกลับมาทรงตัวเหนือระดับ 85 เหรียญต่อบาร์เรลสะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มเงินเฟ้ออาจยังทรงตัวระดับสูงต่อไปทำให้เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย สอดคล้องกับแนวโน้มของ Fed Watch บ่งชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% ในการประชุม FOMC ครั้งถัดไปในต้นเดือนพ.ย.
ดังนั้นฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำอาจถูกกดดันต่อเนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 1,600-1,700 $/oz คำแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้