ทิ้งหุ้น รร.กลัวกำไร Q3 ร่วง MINT แม่-ลูกถูกถล่มยับ

HoonSmart.com>>นักท่องเที่ยวแห่เข้าไทย สวนทางแรงขายหุ้นโรงแรมไม่เลิก  “ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ตกเป็นเป้าทิ้งแรง ฉุดแม่-ลูกหุ้นปักหัวลงแรง กลัวเศรษฐกิจยุโรปถดถอย-ราคาพลังงานสูง ฉุดที่มาของกำไร 50% ส่วนโรงแรมเซ็นทรัลพลาซารายได้จากไทยถึง 80% ทำให้ไตรมาส 3/65 ไม่สวย ด้านดัชนีเกาะเมืองนอกปิดบวก 10 จุด แต่ต่างชาติยังคงขายหุ้นหนัก 2,359 ล้านบาท และตราสารหนี้อีกกว่า 3,071 ล้านบาท 

วันที่ 17 ต.ค.2565 หุ้นในกลุ่มโรงแรมส่วนใหญ่ลดลง นำโดยบริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) ปิดที่ 48.25 บาทร่วง 1 บาทหรือ -2.03% แต่มูลค่าซื้อขายไม่มากเท่า บริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ถูกเทกระจาด ต่ำสุด 24.10 บาท ก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ 24.50 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ -2.00% มูลค่าซื้อขายรวม 1,834.98 ล้านบาท กระทบต่อราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ หรือวอร์แรนต์ รุ่นที่ 7-9   ร่วงระนาว MINT-W7 ดิ่ง -12.68% ปิดที่ 6.20 บาท MINT-W8 ทรุด -9.63% ปิดที่ 2.80 บาท สวนทางภาพของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และสถาบันวิจัย ต่างปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้ มากกว่า 10 ล้านคนและปีหน้ากว่า 28 ล้านคน

ขณะเดียวกัน 12 นักวิเคราะห์ลงมติเอกฉันท์แนะนำซื้อ MINT ให้ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 38.18 บาท CGS-CIMB ตีมูลค่าสูงสุด 46 บาท ล่าสุด บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ให้ราคาเป้าหมายเพียง 29 บาท บล.ทิสโก้-บล.หยวนต้าลดมูลค่าเหลือ 38 บาท

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้น MINT ปรับตัวลงนำกลุ่มโรงแรม จากคาดการณ์กำไรไตรมาส 3/65 จะออกมาไม่ดี จากความกังวลเศรษฐกิจในยุโรปชะลอตัว และย้งต้องเผชิญกับราคาพลังงานที่สูง ซึ่งกำไร MINT ครึ่งหนึ่งมาจากทางยุโรป แม้แต่ในไทยในเดือนก.ย.ก็ไม่ดีด้วย ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มโรงแรมต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า อย่างหุ้น CENTEL ก็ปรับตัวลง โดย CENTEL มีรายได้จากในประเทศเป็นหลักถึง 80%

สมาคมโรงแรมไทย (THA) ได้ประกาศว่า อัตราการเข้าพักเดือนก.ย.ลดลงจากเดือนส.ค.2565 ตามจำนวนวันหยุดที่น้อยกว่าเดือนก่อน และความกังวลน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ประกอบกับเป็นช่วง Low Season ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากตลาดระยะไกลยังไม่เดินทางมามากนัก ส่งผลให้รายได้ธุรกิจยังฟื้นตัวได้จำกัด โดยอัตราการเข้าพักเดือนก.ย.เฉลี่ยอยู่ที่ 44% ลดลงจากส.ค.ที่ 48%

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า เป็นครั้งแรกที่กลุ่มท่องเที่ยวมีข่าวลบเข้ามา อีกทั้งจีนก็ยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวก็เผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาบ้างเหมือนกัน

ทั้งนี้ สัญญาณทางเทคนิคของหุ้น MINT ให้มีแนวรับ 24 บาท แนวต้าน 25.5 บาท ส่วนหุ้น CENTEL แนวรับ 48-46.50 บาท แนวต้าน 49.50 บาท

ด้านตลาดหุ้นปรับตัวขึ้น  10.62 จุดหรือ 0.68% ดัชนีปิดที่ 1,571.40  จุด มูลค่าซื้อขายรวม 66,745.48 ล้านบาท แม้ว่านักลงทุนต่างประเทศยังคงขายหนักมือ 2,359.54 ล้านบาท และขายตราสารหนี้ด้วยกว่า 3,000 ล้านบาท สวนทางสถาบันไทยซื้อสุทธิ 1,388.40 ล้านบาท  บัญชีหลักทรัพย์ซื้อ 705.43 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อ 265.71 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าบวกกว่า 200 จุด หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปีอ่อนตัวลงต่ำกว่า 4% ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งบวกและลบ

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ในช่วงเช้าตลาดย่อตัวลงแต่ไม่หลุด 1,556 จุด ทำให้ดัชนีฯสามารถรีบาวด์ขึ้นมาได้ตามตลาดในยุโรป และดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้นได้ในช่วงบ่ายนี้ แต่ดัชนีฯยังติดแนว 1,570 จุด ส่วนตลาดในภูมิภาคเอเชียก็เคลื่อนไหวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ

ทิศทางตลาดยังมีความผันผวนอยู่จากความกังวลเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ช่วงนี้ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร และการพรีวิวงบฯ  ทำให้อาจมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัวได้

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 18 ต.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยมีแนวรับ 1,556 จุด แนวต้าน 1,580 จุด