HoonSmart.com>> ดัชนีหุ้นปิดภาคเช้าที่ 1,561.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด แกว่งทรงตัว หลังเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า-บอนด์ยีลด์พุ่ง กังวลเศรษฐกิจชะลอตัวหลังเงินเฟ้อทรงตัวสูง แต่การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังไม่มีมาตรการผ่อนคลาย อีกทั้งราคาน้ำมันร่วงกดดัน แนวโน้มภาคบ่ายแกว่งแคบ แนวรับ 1,553-1,550 จุด แนวต้าน 1,563 จุด
ตลาดหุ้นวันที่ 17 ต.ค.2565 ดัชนีปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,561.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.37 จุด หรือ +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 37,385.28 ล้านบาท โดยดัชนีขึ้นไปแตะ 1,563.72 จุด และต่ำสุด 1,553.80 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้านี้เคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัว ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบราว 1% หลังเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับตัวขึ้น และเงินดอลลาร์สหรัฐก็แข็งค่าขึ้น จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว หลังเงินเฟ้อทรงตัวสูง นอกจากนี้ การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ในจีนก็ยังไม่มีการผ่อนคลายมาตรการสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 แต่ยังต้องติดตามการประชุมต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดได้รับแรงกดดันกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปรับตัวลง โดยให้ติดตาม GDP ของจีนที่จะออกมาในวันพุธนี้ (19 ต.ค.) และตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/65 ซึ่งคาดว่าจะออกมาดีกว่าตลาดอื่น จากฐานปีที่แล้วต่ำ
สำหรับแนวโน้มภาคบ่ายแกว่งแคบในลักษณะทรงตัว โดยมีแนวรับ 1,553-1,550 จุด แนวต้าน 1,563 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ -0.72% มูลค่าซื้อขาย 2,527.72 ล้านบาท
EA ปิดที่ 92.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท หรือ +3.65% มูลค่าซื้อขาย 1,983.41 ล้านบาท
BDMS ปิดที่ 29.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,457.22 ล้านบาท
AOT ปิดที่ 70.50 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ -0.70% มูลค่าซื้อขาย 1,396.70 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +1.82% มูลค่าซื้อขาย 1,373.68 ล้านบาท