HoonSmart.com>>‘เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล’ ได้ฤกษ์นำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 1 พ.ย.นี้ ชูโมเดลธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกรายใหญ่ของไทย เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับดีมานด์ในตลาดโลก ตามเทรนด์สัตว์เลี้ยงเทียบเท่าสมาชิกในครอบครัว วางแผน 3 ปี ตั้งงบลงทุน 2,200 ล้านบาท เพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัว ออกสินค้าแบรนด์บริษัท เพิ่มอัตรากำไรสูงขึ้น
บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทานชั้นนำของประเทศจัดโรดโชว์ โดยนายเอกราช พรรณสังข์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทเริ่มต้นธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงด้วยการเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) และยกระดับเป็นผู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Co-developer) ร่วมทุนกับจีนในการสร้างโรงงานผลิตแบบเม็ด ปัจจุบันกำลังพัฒนาเป็นคู่ค้าเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partners) เติบโตไปด้วยกัน พร้อมศึกษาว่าจะเข้าไปร่วมทำธุรกิจต้นน้ำและปลายน้ำอย่างไร รวมถึงการพัฒนาแบรนด์ และการออกสินค้าใหม่ๆในการตอบโจทย์ให้ลูกค้าให้กับทุกตลาด
ส่วนการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จและความภาคภูมิใจของบริษัทฯ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รักษาผลกำไรอย่างมั่นคงโดยมีเป้าหมายเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง(Pet Food) และอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก (Human Food) ที่ได้รับการไว้วางใจจากลูกค้าในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม รวมถึงการให้ความสำคัญในปรับปรุงพัฒนากระบวนการผลิตโดยการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด
“เราคุยกับลูกค้าหลายราย หลักๆมีการคุยว่าปีหน้าหรือ 2 ปีข้างหน้า จะทำอะไรกันบ้าง มีลูกค้ารายหนึ่งที่ทำสัญญาระยะยาว 3-4 ปี เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เชื่อว่า AAI เป็นผู้ผลิตที่มีคุณภาพจะช่วยให้ลูกค้าเติบโตตามแผนได้ ทำให้เรามีออเดอร์แน่นอน และเป็นความสำเร็จของบริษัท”นายเอกราชกล่าว
ปัจจุบันโรงงานที่จีนมีกำลังผลิตเม็ด 20,000 ตันต่อปี ที่จ.สมุทรสาคร ประมาณ 42,000 ตันต่อปี ผลพลอยได้ 6,000 ตัน/ปี หลัง IPO วางแผนโครงการที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายปี 2565-2568 ได้แก่ 1) โครงการขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกเพิ่มเติมอีกประมาณ 40,000 ตันต่อปี ในช่วงปลายปี 2565-2568 2) ลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 ภายในปี 2566 คาดว่าจะเก็บสินค้าได้ประมาณ 15,000 – 20,000 พาเลท
ด้านนางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตแตะ 6,200 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 4,985 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกทำได้ 3,464 ล้านบาท มั่นใจว่าเป็นไปตามเป้าจากการเติบโตของธุรกิจทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจ ที่คาดมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง จำนวน 5,400 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหารพร้อมทานบรรจุภาชนะปิดผนึก จำนวน 800 ล้านบาท จากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง การขยายตลาด และการเพิ่มกำลังการผลิต
ส่วนแผนลงทุน 3 ปี ในการเพิ่มกำลังการผลิตในประเทศอีก 1 เท่าตัว ต้องใช้เงินลงทุน 2,200 ล้านบาท แต่งบอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ตามแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ นักลงทุนเชื่อมั่นได้ว่าบริษัทจะไม่มีปัญหาในการหาเงินทุนมารองรับ เนื่องจากการเพิ่มกำลังการผลิต EBITDA น่าจะเพียงพอในการลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตได้
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้เติบโตจากจำนวน 3,500 ล้านบาท เพิ่มเป็นเกือบ 5,000ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 18%ต่อปี เพราะเป็น Co-developer ขณะเดียวกันตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโตเฉลี่ย 30% ความต้องการล้นหลาม บริษัทมีอัตรากำไรเติบโตจากเกือบ 10% เป็น 19%ในครึ่งปี 2565 เพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว อัตรากำไรสุทธิ ก็เติบโตก้าวกระโดด 10% ROE ขยับขึ้นมาเป็น 33 % ROA 17.8% บริษัทมีการก่อหนี้ต่ำ D/E ไม่ถึง 1 เท่า แม้มีการลงทุน เชื่อว่าจะช่วยทำให้พื้นฐานดี มีรากฐานที่แข็งแกร่งจะเติบโตไปได้ในธุรกิจนี้
” เรากำลังพัฒนาเป็น Strategic Partners โดยผลักภาระต้นทุนให้ลูกค้าได้ พร้อมร่วมมือกับลูกค้าในการควบคุมต้นทุน ทำให้อัตรากำไรยังไปต่อได้ เนื่องจากการปรับปรุงประสิทธิภาพ มีการลงทุนด้านระบบนำมาทดแทนคน หนึ่งในกลยุทธ์ที่จะเติบโตในระยะยาวและยึดอยู่ในธุรกิจนี้ การเติบโตจากแบรนด์ตัวเองภายใน 5 ปีตั้งเป้า สัดส่วน 10% ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูง และระมัดระวังการใช้งบการตลาด”
นายทวีชัย ตั้งธนทรัพย์ Head of Investment Banking Capital Market บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า AAI จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 1 พ.ย.2565 กำหนดราคาขายที่ 5.55 บาทต่อหุ้น คิดจากกำไรย้อนหลัง 12 เดือน ได้ P/E 16 เท่า การตั้งราคามองไปข้างหน้า ดังนั้น P/E จะต่ำกว่า 16 เท่า ให้ส่วนลดมากเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในต่างประเทศ เทรดกันมากกว่า 20 เท่า เนื่องจากบริษัทยังมีการเติบโตสูงจากการนำเงิน IPO ไปรองรับการขยายกำลังการผลิต ลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 ชำระหนี้ลดดอกเบี้ย เป็นเงินทุนหมุนเวียน
“มั่นใจการเสนอขายหุ้น IPO ของ AAI จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และจากแผนการลงทุนที่ชัดเจนในการเพิ่มกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกในประเทศไทย รวมถึงลงทุนในคลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมศักยภาพให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนมากขึ้น” นายทวีชัย กล่าว