HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นปิดลบ 9.09 จุด ย่อตัวตาม Sentiment ต่างประเทศ กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด และสัปดาห์นี้ตลาดเทรด 3 วันก่อนหยุดยาว ส่งนักลงทุนชะลอการลงทุน นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,487.78 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,799.29 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้แกว่งไซด์เวย์ซึม ๆ แนวรับ 1,560-1,556 แนวต้าน 1,580-1,590 จุด
ตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 ต.ค.2565 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,570.57 จุด ลดลง 9.09 จุด หรือ -0.58% มูลค่าซื้อขาย 53,323.57 ล้านบาท โดยดัชนีแตะสูงสุด 1,573.41 จุด ต่ำสุด 1,562.35 จุด
นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,487.78 ล้านบาท และบัญชีหลักทรัพย์ขายสุทธิ 493.86 ล้านบาท ด้านนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,799.29 ล้านบาท และนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,182.34 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นวันนี้ย่อตัวลงตาม Sentiment ตลาดหุ้นทั่วโลกที่ต่างปรับตัวลงกัน แต่ตลาดฯปรับตัวลงได้น้อยกว่าตลาดอื่นในเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกัน และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ปรับตัวลงเฉลี่ยเกือบ 1% จากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐจะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาดีกว่าคาด
ทั้งนี้ ตลาดได้รับแรงดันจากหุ้น CPALL และ MAKRO หลังจากที่มีข่าวออกมาว่า “แม็คโคร” จะไม่มีส่วนร่วมกับดีลซื้อกิจการในอินเดีย ทำให้ราคาหุ้น CPALL และ MAKRO ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจะเปิดทำการแค่ 3 วันก่อนปิดระยะยาว ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจชะลอการลงทุน และ/หรือลดความเสี่ยงเนื่องจากในวันที่ 13 ต.ค.เงินเฟ้อสหรัฐจะออกมา และวันที่ 14 ต.ค.เงินเฟ้อของจีนก็จะออกมาด้วย ทำให้เชื่อว่าตลาดคงจะยังไม่ไปไหนช่วงนี้
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในวันที่ 11 ต.ค.2565 ตลาดคงจะแกว่งไซด์เวย์ในลักษณะซึม ๆ โดยมีแนวรับ 1,560-1,556 จุด แนวต้าน 1,580-1,590 จุด
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
PTT ปิดที่ 34.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 3,000.08 ล้านบาท
CPALL ปิดที่ 55.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +3.72% มูลค่าซื้อขาย 2,926.61 ล้านบาท
BANPU ปิดที่ 12.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ +2.44% มูลค่าซื้อขาย 1,426.24 ล้านบาท
DELTA ปิดที่ 662.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท หรือ +0.61% มูลค่าซื้อขาย 1,412.76 ล้านบาท
PTTEP ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +0.29% มูลค่าซื้อขาย 1,333.19 ล้านบาท