BBLAM เสิร์ฟ 2 กองทุนใหม่ RMF-SSF ปรับพอร์ตสู้เงินเฟ้อ

HoonSmart.com>> “บลจ.บัวหลวง” ชวนนักลงทุน RMF และ SSF ปรับพอร์ตสู้เงินเฟ้อสูง กับ 2 กองทุนใหม่ B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF IPO 4–10 ต.ค.นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด (BBLAM) เปิดเผยว่า BBLAM สื่อสารกับนักลงทุนสม่ำเสมอตลอดปีนี้ ถึงภาวะเงินเฟ้อที่จะยังคงสูงต่อเนื่อง และตลาดขาลงก็จะยังเกิดขึ้นต่อไปช่วงใหญ่ๆ ซึ่งคำแนะนำส่วนมากก็จะเป็น “การทยอยสะสม” “เผื่อใจลงทุนระยะยาว” โดยมองการลงทุนเป็นสองส่วนใหญ่ๆ ได้แก่ ส่วนแรก คือ การทยอยสะสมในกองทุนมีธีมลงทุนในหุ้นที่มีอนาคตดีและราคาปรับตัวลงมาแรงในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนสอง คือ การเพิ่มกองทุนที่ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่มีเป้าหมายชัดเจนในการเอาชนะเงินเฟ้อ ซึ่งการปรับพอร์ตให้มีทั้งสองส่วนนี้ ก็จะทำให้พอร์ตลงทุนของผู้ลงทุนสามารถทนต่อแรงกดดันจากสภาวะเงินเฟ้อและดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งก็เตรียมตัวเก็บโอกาสได้ทันทีเมื่อมีสัญญาณทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยนักลงทุนต้องยอมรับเงื่อนไขอย่างหนึ่งว่าอาจจำเป็นต้องถือครองการลงทุนระยะยาว เพราะเป็นไปได้ว่าช่วงตลาดขาลงนี้ ราคาหุ้นก็ยังอาจปรับตัวลงมาได้อยู่เป็นระยะ

สำหรับกองทุน RMF และ SSF จะได้ประโยชน์จากข้อดีที่มีเงื่อนไขลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว เพียงแต่อาจต้องปรับพอร์ตเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ดังเช่น ปัจจุบันที่การปรับพอร์ตต้องคำนึงถึงเรื่องของเงินเฟ้อสูง ดอกเบี้ยยังคงอาจขึ้นต่อ และเศรษฐกิจอาจจะถดถอย ซึ่ง BBLAM เอง จึงเห็นว่าผู้ลงทุนกลุ่มนี้ควรเพิ่ม “กองทุนที่พร้อมสู้เงินเฟ้อ และทนทานต่อแรงเสียดทานของตลาดขาลงได้” ดังนั้น จึงนำเสนอกองทุน B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF แก่นักลงทุนในเวลานี้

B-GLOB-INFRARMF และ B-GLB-INFRASSF ทั้งสองกองทุนจะไปลงทุนในหน่วยของกองทุน Legg Mason ClearBridge Global Infrastructure Income Fund (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน Class S Acc (USD) บริหารงานโดย ClearBridge Investments ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ Franklin Resources, Inc. ซึ่งกองทุนนี้เน้นลงทุนในตราสารทุนและหลักทรัพย์ที่มีลักษณะเดียวกับตราสารทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานในกลุ่มประเทศ G7 ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา โดยมีเป้าหมายที่ต้องเอาชนะ คือ ดัชนี OECD Major 7 CPI + 5.5% หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ต้องบริหารจัดการเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินเฟ้อกลุ่ม G7 หลังจากที่บวกเพิ่มไปอีก 5.5% นั่นเอง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า ท้ายที่สุดของ B-GLOB-INFRARMF และ B-GLOB-INFRASSF จะลงทุนในกองทุนหลักกองเดียวกัน แต่วิธีการลงทุนอาจจะต่างกันบ้าง โดย B-GLOB-INFRARMF จะมีนโยบายเข้าไปลงทุนโดยตรงในกองทุนหลัก ขณะที่ B-GLOB-INFRASSF จะลงทุนผ่านหน่วยลงทุนของกองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ (B-GLOB-INFRA) ทั้งนี้ B-GLOB-INFRASSF ซึ่งมีเงินไปลงทุนใน B-GLOB-INFRA จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมซ้ำซ้อนกัน

สำหรับแนวคิดของกองทุนหลักที่ลงทุนในหุ้นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความสามารถในการปรับขึ้นราคาได้ สามารถปรับไปลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นขาขึ้นหรือลง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ทุกวัน เช่น ธุรกิจเสาส่งไฟฟ้า ท่อก๊าซ โรงไฟฟ้า เป็นต้น และรัฐบาลยังเปิดทางให้ผู้ประกอบการที่ลงทุนสามารถปรับขึ้นราคาได้ และผลตอบแทนที่ผ่านมาตั้งแต่ตั้งเปิดกองทุนในปี 2010 ถึงปี 2021 ก็พิสูจน์แล้วว่าสามารถเอาชนะเป้าหมายดังกล่าวได้แทบทุกปี ยกเว้นปี 2015 และปี 2018 เท่านั้น อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มนี้ในบางภาวะที่ตลาดผันผวนหนัก ๆ ก็ยังคงได้รับผลกระทบบ้างแต่โดยปกติจะไม่มากเท่า Growth stock

สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุน RMF และกองทุน SSF ที่ลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไปจำเป็นต้องแจ้งความประสงค์จะใช้สิทธิยกเว้นภาษีเพื่อให้ BBLAM ส่งข้อมูลการซื้อหน่วยลงทุนให้กับกรมสรรพากรเพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษี ซึ่งรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการ ทาง BBLAM จะได้มีการจัดส่งหนังสือชี้แจงแก่ผู้ถือหน่วยกองทุน RMF และ SSF ทุกราย หรือจะมีการอัพเดทข้อมูลที่ www.bblam.co.th