4 โบรกฯส่องหุ้นเดือน ต.ค.ผันผวน แกว่งในกรอบ 1530-1660 ชู 16 หุ้นเด่น

HoonSmart.com>> 4 โบรกส่องหุ้นครึ่งแรกเดือนต.ค. เจอแรงกดดันปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศ เงินบาทยังอ่อนค่า ลดเป้าเศรษฐกิจ-กำไรบจ. ส่วนครึ่งเดือนหลังตลาดอาจฟื้นตัวได้บ้างหลังตอบรับปัจจัยเสี่ยงไปพอควร  เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบไตรมาส 3/65 จะออกมาดี แนะหุ้นเด่นเดือนต.ค. MINT, SHR, CRC, CPALL, BBL, SCB, TU, GFPT, DELTA, KISS, ADVANC, GUNKUL, PTG, OR, BAY, BDMS ดัชนีฯมีโอกาสลงต่ำสุดแถว 1,530 และสามารถขึ้นได้สูงถึง 1,660 จุด

ตลาดหุ้นไทยจบไตรมาสที่ 3/2565  ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปิดที่ระดับ 1,589.51 จุด ลดลงจำนวน 21.18 จุดหรือ -1.35%  เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปิดที่ระดับ 1,568.33  จุด และรูดลง 68.11 จุดหรือ -4.10% เมื่อเปรียบเทียบกับสิ้นปี 2564 หลังจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ -24,366.11 ล้านบาทในเดือนก.ย. แต่รวม 9 เดือนปีนี้พลิกซื้อสุทธิ 150,235.59  ล้านบาท ทั้งนี้ดัชนีหุ้น ณ วันที่  30 ก.ย. ที่ 1,589.51 จุดเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นในเดือนต.ค. 2565 นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)  คาดว่าจะยังคงผันผวนอยู่ จากแรงกดดันการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลายประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัว และเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า อีกทั้งในเดือนต.ค.จะเป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 เริ่มที่กลุ่มแบงก์จะประกาศช่วงกลางเดือน และยังต้องเผชิญกับค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นในเดือนต.ค. กระทบต้นทุน รวมถึงภาษีซื้อขายหุ้นซึ่งจะครบกำหนดในต.ค.หลังให้ระยะเวลา 3 เดือน ทำให้อาจจะต้องมีการกลับมาพูดถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 5 ต.ค. การตัดสินของกสทช.กรณีการควบกิจการ DTAC-TRUE ในวันที่ 12 ต.ค, การประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนจะมีขึ้นในวันที่ 16-22 ต.ค. และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 27 ต.ค.นี้ รวมถึงตัวแลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือนก.ย.ที่จะออกมาในวันที่ 13 ต.ค. จับตาดูว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งเงินเฟ้อสหรัฐเดือนส.ค.ออกมา 8.3%

ส่วนใหญ่เดือนไหนที่ไม่มีการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)  ตลาดหุ้นมักจะฟื้นตัวขึ้นได้ โดยเฟดจะประชุมอีกครั้งวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ และจับตาตลาดจะสรุปรายละเอียดเกณฑ์คัดเลือกหุ้นเข้า SET50-SET100 ซึ่งหุ้น DELTA มีลุ้นที่จะได้เข้า SET50 พร้อมเชียร์หุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว, ธนาคาร, ค้าปลีก และส่งออก(ได้รับประโยชน์จากบาทอ่อนค่า) รวมถีงหุ้นที่งบฯไตรมาส 3/65 จะออกมาดี โดยแนะนำหุ้น MINT, SHR, CRC, CPALL, BBL, SCB, TU, GFPT, DELTA ในเดือนต.ค.ให้แนวรับ 1,540 จุด แนวต้าน 1,660 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนต.ค.ตลาดหุ้นจะมีความผันผวนสูง จากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย, การปั่นป่วนของค่าเงิน และธนาคารกลางหลายแห่งเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย กดดันตลาด  แต่มองหุ้นไทยจะ Outperform กว่าตลาดต่างประเทศ คาดน่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ในครึ่งเดือนหลัง รับแรงหนุนจากผลตอบแทนกลุ่มธนาคารที่จะช่วยให้ตลาดฟื้นตัวได้ และคาดหวังผลจากการประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ของจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 16-22 ต.ค. น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม หรือการผ่อนปรนมาตรการที่เข้มงวด หากจีนทำได้ตลาดน่าจะตอบสนองในทางที่ดี เพราะไทยได้รับประโยชน์จากจีนมาก

กลยุทธ์การลงทุนในเดือนต.ค.มองว่า หากดัชนีฯลงต่ำกว่าระดับ 1,620 จุด มองเป็นการปรับฐาน สามารถทยอยซื้อได้ มอง Downside โซนแรกที่ 1,575 จุด โซนที่สองคือ 1,530-1,550 จุด คิดว่าจะไม่หลุด 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,630 จุด หุ้นที่น่าสนใจลงทุนมองหุ้นที่อิงการเปิดเมือง เปิดประเทศและหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดครึ่งแรกเดือนต.ค.อาจจะไม่ค่อยดีนัก จะรับรู้การปรับลดประมาณการเศรษฐกิจ และปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน จากผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ในครึ่งเดือนหลัง ทิศทางตลาดจะดีขึ้นหลังตอบรับเศรษฐกิจถดถอยไปพอควรแล้ว อีกทั้งเดือนต.ค.ไม่มีกิจกรรมของเฟด ต้องไปจับตาวันที่ 1-2 พ.ย.ที่จะมีการประชุมเฟด ซึ่งต้องรอดูเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หรือไม่ และเศรษฐกิจสหรัฐจะลดความร้อนแรงลงหรือไม่

อย่างไรก็ดี ยังมีหุ้นที่น่าสนใจลงทุนในเดือนต.ค. เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และหุ้นปลอดภัย แต่ให้ระวังหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจโลก โดยเชียร์หุ้น TU, KISS, ADVANC, GUNKUL, PTG, OR พร้อมเน้นบริหารความเสี่ยงเลือกลงทุนหุ้นที่มีผลกระทบจากการปรับลดประมาณการ เน้นหุ้นที่ได้ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว

พร้อมให้ติดตามรายงานเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะออกมาราวสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนต.ค. จับผลกระทบเศรษฐกิจ  และติดตามแผน PDP ฉบับใหม่ที่จะออกมาในปลายปีนี้ ในเดือนต.ค.ให้แนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,630 จุด

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดในเดือนต.ค.คาดว่าคงจะอยู่ในช่วงของการพักตัวแถว 1,600 จุด หลังจากภาพโดยรวมไม่มีประเด็นผ่อนคลาย ยังกังวลเศรษฐกิจถดถอยกดดันอยู่ ทำให้ครึ่งแรกของเดือนต.ค.ตลาดน่าจะเงียบ และครึ่งหลังของเดือนต.ค.จะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาบ้างจากการทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 โดยเริ่มที่กลุ่มธนาคารก่อน

ดังนั้นจีงแนะนำ”หุ้นย่อตัวค่อยซื้อ”โดยเชียร์หุ้นในกลุ่ม Domestic และหุ้นเปิดเมือง (Reopening) โดยให้ถือในระยะกลาง-ยาว ซึ่งหุ้นเด่นเดือนต.ค. คือ หุ้น BBL, TU, BAY, BDMS และ CPALL พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด แนวต้าน 1,630 จุด