HoonSmart.com>>”ทริพเพิล ไอ ” ชูกลยุทธ์ โลจิสติกส์ แอนด์ บียอนด์ การเติบโตมากกว่าพื้นที่การทำธุรกิจ ปี 2566 รับมือบริษัทลูก ANI เรือธงขับเคลื่อนการโตแรง ขณะที่ธุรกิจปกติโตได้ปีละ 15-20% “วิรัช” CFO เผยครึ่งปีหลัง ขนส่งทางอากาศพระเอกนำขนส่งทางเรือหลังวิกฤติขาดตู้สินค้า กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ (III ) ผู้ให้บริการขนส่งที่ครอบคลุม 4 สายการขนส่ง ผู้นำเบอร์ต้นของการขนส่งภาคพื้นอากาศ , การขนส่งสินค้าสารเคมี-วัตถุมีพิษ , การขนส่งทางเรือ และการขนส่งทางบกซึ่งร่วมถึงการขนส่งทางรถยนต์และรถไฟ
ธุรกิจทั้ง 4 ขาของ III เป็นตัวช่วยในยามที่ขาใด-ขาหนึ่ง ของธุรกิจชะลอตัว ได้อย่างดี ซึ่งในปีที่ผ่านมาและครึ่งปีแรก การขนส่งทางเรือ อยู่ในช่วงพีค หรือขาขึ้นของธุรกิจในยุคโควิด-19 ส่งผลให้ตู้ขนสินค้าขาดแคลน ค่าขนส่งทางเรือ ปรับตัวขึ้นผิดปกติหลายเท่าตัว แม้ว่าปัจจุบันค่าขนส่งทางเรือ ปรับตัวลงมา แต่ยังสูงกว่าระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติตู้ขนส่งไม่เพียงพอ
เปิดแผนธุรกิจปี 2566 โต 15-20%
นายวิรัช นอบน้อมธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน (CFO) บริษัท ทริพเพิล ไอ ฯ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ www.HoonSmart.com ว่า ปีนี้ค่าขนส่งทางเรือ ขึ้นเร็ว-ลงเร็ว ขณะนี้ถือว่าผ่านจุดสูงสุดและกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ค่าขนส่ง ยังสูงกว่าระดับก่อนวิกฤต ซึ่ง “ทริพเพิล ไอ” ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ในทางกลับกัน การขนส่งทางอากาศ ได้รับผลดีจากการเพิ่มเที่ยวบินในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น หลังวิกฤตโควิด-19 ผ่อนคลาย ปริมาณสินค้าขนส่งทางอากาศมากขึ้น
สำหรับแผนการเติบโตปี 2566 ธุรกิจปกติทั้ง 4 หน่วย ยังเติบโตปีละ 15-20% โดยเฉพาะธุรกิจขนส่งทางอากาศ (Air Freight) หรือแอร์เฟรท กลับมาเป็นพระเอก หลังจาก 2 ปีที่ผ่านมาธุรกิจชะลอตัว ขณะนี้ความต้องการขนส่งทางอากาศความต้องการขนส่งกลับมาสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ปี 2566 บริษัท มีแผนขยายคลังสินค้าจัดเก็บสินค้าเคมีและวัตถุเคมี รองรับการเติบโตการขนส่งของลูกค้า จากเดิมพื้นที่ 26,000 ตารางเมตร เป็น 30,000 ตารางเมตร ขณะที่การขนส่งทางราง หรือรถไฟในประเทศ มีแผนทำให้เติบโต ให้ลูกค้ากลับมาใช้ขนส่งรถไฟมากขึ้น ทดแทนการขนส่งทางรถที่มีต้นทุนน้ำมันสูงขึ้น
” แผนธุรกิจปี 2566 ธุรกิจหลัก 4 หน่วยงาน สามารถเติบโตได้เฉลี่ยปีละ 15-20% ขณะที่กลยุทธ์การควบรวม หรือ M&A ยังเป็นตัวขับเคลื่อนต่อยอดธุรกิจหลัก จุดแข็งของทริพเพิล ไอ เราเน้นการบริหารกระแสเงินสด มากกว่าการบริหารสินทรัพย์ เห็นได้จากช่วงวิกฤตที่ผ่านมา การบริหารกระแสเงินสดที่ดี ทำให้การบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ”
เรือธง ANI เข้าตลาดหุ้น 2566
ซีเอฟโอ กล่าวอีกว่า บริษัทย่อยที่ลงทุนหลายบริษัท เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ดี เสริมธุรกิจปกติ ซึ่งปี 2566 บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ANI) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง III ซึ่งถือหุ้น 50% และคู่ค้าจากประเทศสิงคโปร์ 48% เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ด้วยมูลค่าตลาดรวม 1.3-1.4 พันล้านบาท ใหญ่กว่า III
สำหรับ ANI เป็นตัวแทนสายการบินหลักในประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และเวียดนาม รวมทั้ง Lan Cargo Airlines สายการบินที่มีเส้นทางการให้บริการที่ครอบคลุมมากที่สุดในโซนละตินอเมริกา และ Jeju Air สายการบินที่โดดเด่นเป็นอันดับสามของประเทศเกาหลีใต้
ปัจจุบัน ANI เป็นตัวแทนขายระวางสินค้า ให้กับสายการบินต่าง ๆ ไม่ต่ำกว่า 20 สายการบินทั่วภูมิภาคเอเชีย ครอบคลุมประเทศไทย เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า และกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานการผลิต และการกระจายสินค้าในระดับนานาชาติ
ANI มีสำนักงานใหญ่อยู่ในไทย และสนง.ครอบคลุม ฮ่องฮง สิงคโปร์ เวียดนาม พม่า และกัมพูชา บมีแผนปรับโครงสร้างทุน-ธุรกิจ จะเป็นตัวแทนสายการบินได้อีกหลายสาย
ผลดำเนินงาน ANI สามารถสร้างผลประกอบการได้ตามเป้าหมาย ครึ่งปี 2565 ที่ผ่านมา มีรายได้จากการให้บริการกว่า 2,759 ล้านบาท กำไรสุทธิกว่า 245 ล้านบาท โดยมีปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ทางกลุ่มให้บริการมากกว่า 120,000 ตันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
AOTGA เทิร์นอะราวน์
ซีเอฟโอ กล่าวถึง การลงทุนในบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด ( AOTGA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย ( AOT ) และบริษัท เอส เอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) ดำเนินธุรกิจการให้บริการภาคพื้นอากาศยานและผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยาน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT ให้ครอบคลุมและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน AOTGA ให้บริการที่ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานภูเก็ต
ผลดำเนินงานเริ่มมีกำไรตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 คาดว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวน์ พร้อมการเปิดประเทศ
เป้าหมาย โลจิสติกส์ บียอนด์ ระดับภูมิภาค
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการเงิน กล่าวทิ้งท้ายว่า เป้าหมายของทริพ เพิล ไอ ฯ คือ การเป็นโลจิสติกส์ บียอนด์ ที่เติบโตเกินจากพื้นที่ และเติบโตอย่างมั่นคง เป็นผู้ให้บริการระดับภูมิภาค ซึ่งอนาคตเพิ่มการเติบโตในเอเซียมากกว่า 7-8 ประเทศ
” การเติบโตของ III มากกว่าธุรกิจเดิมและพรมแดนที่อยู่ หรือ โลจิสติกส์ บียอนด์ , การโตควบคู่ไปกับการร่วมทุน , โตจากแพลตฟอร์มจากองค์กรธุรกิจ สู่ผู้บริโภค หรือ B to C ” นายวิรัช กล่าวในที่สุด
