โดย..สุนันท์ ศรีจันทรา
การใช้ระบบเทคโนโลยีซื้อขายหุ้น หรือ Artificial Intelligence (AI) กำลังเป็นที่นิยมของนักลงทุนมากขึ้น แต่ได้สร้างผลกระทบตามมา โดยทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนอย่างรวดเร็ว การซื้อขายมีความถี่สูง และทำให้เก็งกำไรที่ส่งคำสั่งซื้อขายหุ้นตามระบบเดิมตกอยู่ฐานะที่เสียเปรียบ
เริ่มมีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่าย เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาควบคุมการซื้อขายด้วยเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะแล้ว เพื่อลดความเสียเปรียบของนักลงทุนที่ซื้อขายตามระบบเดิม และป้องกันความผันผวนของตลาด
เบื้องหลังความปั่นป่วนของตลาดหุ้นในบางช่วงเวลา และเบื้องหลังการแกว่งตัวอย่างรุนแรงของราคาหุ้นบางตัว ส่วนหนึ่งเกิดจากคำสั่งซื้อขายด้วยด้วยระบบ AI ซึ่งหากไม่มีมาตรการควบคุมอาจเกิดวิกฤตใหญ่ในตลาดหุ้น
คำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านระบบ AI ปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 20% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมดจากเดิมที่มีสัดส่วนประมาณ 10% โดยบางโบรกเกอร์มีระบบ AI ให้บริการเป็นทางเลือกของลูกค้า
AI จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการการซื้อขายหุ้น เพื่อลดข้อผิดพลาดในการตัดสินใจของนักลงทุน ทั้งความผิพลาดที่เกิดจากอารมณ์ในขณะซื้อขาย วินัยการลงทุน ความโลภและความกลัว นอกจากนั้น ระบบยังปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ตลาดในแต่ละช่วงเวลาด้วย
การออกแบบการตัดสินใจของระบบ AI จึงได้เปรียบระบบการตัดสินใจของมนุษย์ นอกจากนั้น ยังได้เปรียบในการส่งผ่านคำสั่งที่รวดเร็วกว่า โดยก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจสั่งซื้อหรือสั่งขาย AI อาจส่งคำสั่งไปล่วงหน้าแล้ว
และการลงทุนหุ้น ความเร็วเพียงเสี้ยววินาทีอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรหรือความเสียหายร้ายแรงได้
มีการประเมินกันแล้วว่า ภายในเวลา 3 วินาที AI สามารถส่งคำสั่งซื้อขายได้ถึง 17 รายการ ซึ่งมนุษย์ไม่อาจทำได้ เพราะแม้จะตัดสินได้รวดเร็ว แต่กระบวนการสั่งซื้อขายหุ้น มีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา ไม่เหมือนกันการตั้งระบบสั่งซื้อขายแบบอัตโนมัติเหมือนระบบเทคโนโลยี
นักเก็งกำไรระยะสั้น ต่อให้เป็นเสือปืนไวขนาดไหนก็ตาม ไม่มีโอกาสสั่งซื้อขายได้รวดเร็วเท่าระบบ AI และไม่มีทางเคาะหุ้นสู้ AI ได้
ระบบ AI จึงเป็นคู่แข่งตัวร้ายของนักเก็งกำไรระยะสั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ซื้อขายรายวันหรือรายชั่วโมง แต่ไม่มีผลกระทบใดต่อนักลงทุนระยะยาว
นักลงทุนระยะยาว ซึ่งซื้อขายหุ้นโดยอิงปัจจัยพื้นฐาน หวังผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว จะไม่ให้น้ำหนักความสำคัญกับความเคลื่อนไหวหรือขึ้นลงของราคาหุ้นระยะสั้นวันต่อวัน แตกต่างจากนักเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งจะเกาะติดความเคลื่อนไหวหุ้นตลอดเวลา เฝ้ามองกันเป็นรายนาที
การขึ้นลงเพียง 1 ช่วงราคา ถือว่ามีความหมาย และสามารถนำไปสู่การตัดสินใจสั่งซื้อหรือขายได้ทันที ดังนั้นการตัดสินใจที่ฉับไวและการส่งคำสั่งซื้อขายที่รวดเร็ว จึงทำให้เกิดข้อได้เปรียบหรือเสียเปรียบในการเก็งกำไร
และการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ปัจจุบันถือว่า นักลงทุนที่มอบอำนาจให้ AI ตัดสินใจซื้อขายหุ้นแทน ได้เปรียบนักลงทุนที่ยังตัดสินใจสั่งซื้อขายด้วยตัวเองและกำลังเป็นนักลงทุนที่ “ตกยุค”
ใครที่เป็นนักเก็งกำไรระยะสั้น คงต้องหันไปศึกษาระบบ AI ให้ลึกซึ้ง แม้จะไม่ใช้บริการ แต่ต้องรู้ว่า AI มีอิทธิพลต่อการซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้นอย่างไร และจะปรับตัวรับมือผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นด้วยเทคโนโลยีระบบอัจฉริยะอย่างไร
แต่นักลงทุนระยะยาว ยึดปัจจัยพื้นฐานการลงทุนอยู่แล้ว ไม่เข้าออกเร็ว ไม่ซื้อขายเก็งกำไรเป็นรายวัน ไม่จำเป็นต้องกลัวระบบ AI
ส่วนนักเก็งกำไรระยะสั้น ถ้ากลัวผลกระทบระบบ AI ป้องกันง่ายนิดเดียว ปรับพฤติกรรมซื้อขายใหม่ ไม่ซื้อขายเก็งกำไรรายวันก็สิ้นเรื่อง
ทำไมจะต้องเล่นหุ้นรายนาที ทำกำไรคุ้มค่าคอมมิชชั่นกันหรือ
อ่านประกอบ