HoonSmart.com>>ต่างชาติถล่มหุ้นไทย 4,459 ล้านบาท ขายลดความเสี่ยง หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรง 1.00% เจอบล.เครดิตสวิสลดน้ำหนักหุ้น MINT หั่นเป้าเหลือ 25.50 บาท ลดค่า SHR แค่ 4.20 บาท SCB เหลือ 146 บาท FTSE ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทย -73 ล้านเหรียญ ลด 11 หุ้น นำโดย SCC -42 ล้านเหรียญฯ บล.โนมูระแนะให้หนีหุ้นที่พึ่งพารายได้ยุโรป MINT-SHR-XO-TU-IVL-PTTGC-CRC จีนล็อกดาวน์ ดัชนีหุ้นร่วง -0.86% หนักกว่าเอเชีย
วันที่ 15 ก.ย.2565 ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งบวกและลบ ส่วนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทรุดลงมาก ปิดที่ระดับ 1,642.33 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.86% มูลค่าการซื้อขาย 72,795.39 ล้านบาท เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,459.13 ล้านบาท สถาบันไทยขาย 333.72 ล้านบาท ด้านนักลงทุนไทยซื้อมากถึง 4,807 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นมาก เน้นตัวใหญ่ เนื่องจากลดความเสี่ยง กังวลเฟดจะมีมติขึ้นดอกเบี้ยมากถึง 1.00 % และฟุุตซี่ (FTSE) ลดน้ำหนักตลาดหุ้นไทยรวม -73 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 2,700 ล้านบาท หลังจากลดน้ำหนัก 11 หุ้น นำโดย SCC -42 ล้านเหรียญฯ ส่วน PTT, CPALL, AOT, BDMS, KBANK, ADVANC, PTTEP, GULF, CPN, SCB ราว -6 ถึง-2 ล้านเหรียญฯ ขณะที่เพิ่มน้ำหนัก BH +35 ล้านเหรียญฯ
ในวันเดียวกัน นักลงทุนถล่มหุ้น MINT ตั้งแต่เปิดการซื้อขาย กดราคาลงไปต่ำสุดแตะ 27.25 บาท ก่อนเด้งขึ้นมาเล็กน้อยปิดที่ 28.25 บาท ติดลบ 1.50 บาทหรือ 5.04% SHR ลงไปต่ำสุด 3.40 บาท ปิดที่ 3.42 บาท -0.36 บาทหรือ -9.52% และ SCB ปิดที่ 106.50 บาท ลดลง 3.50 บาทหรือ -3.18%
บล.เครดิตสวิส ปรับลดน้ำหนักหุ้น MINT และลดราคาเป้าหมายจาก 39 บาทเหลือเพียง 25.50 บาท รวมถึงหุ้น SHR ลดมูลค่าเหมาะสมจาก 5.45 บาทเหลือ 4.20 บาท พร้อมลดราคาเป้าหมายหุ้น SCB จาก 165 บาทเหลือ 146 บาท โดยยังคงให้น้ำหนัก SCB มากกว่าตลาด
บล.โนมูระ พัฒนสิน รายงานว่า MINT และ SHR ปรับตัวลงแรง -7.4% และ -6.8% เกิดจากโบรกเกอร์ต่างประเทศแห่งหนึ่งปรับลดคำแนะนำและราคาเป้าหมาย คาดมาจากประเด็นความกังวลธุรกิจในยุโรปที่มีความเสี่ยงมากขึ้น จากเงินเฟ้อที่พุ่งสูง จากราคาพลังงานที่สูงผิดปกติ และธนาคารกลางต่างๆ กำลังเร่งใช้นโยบายการเงินเข้มงวด เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจระยะถัดไป เชิงกลยุทธ์ให้ระวังหุ้นที่มีฐานธุรกิจยุโรปอื่น CRC, IVL, PTTGC, XO, TU
ทั้งนี้คาดว่าการปรับลดดังกล่าวมาจากความกังวลผลกระทบฐานธุรกิจในยุโรปที่มีปัจจุบันมีความเสี่ยงมากขึ้น โดย MINT และ SHR มีรายได้ในยุโรปราว 50%
แนะนำให้ระวังเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจจะเกิดต่อหุ้นอื่นๆที่มีฐานธุรกิจในยุโรป อาทิ XO (85% ของรายได้), TU(25% ของรายได้), IVL (21% ของรายได้) PTTGC (13% ของรายได้) และ CRC (6% ของรายได้) ซึ่งตลาดอาจจะให้ความกังวลเป็นกลุ่มถัดไป
บล.โนมูระฯแนะเชิงกลยุทธ์ระยะสั้นหลีกเลี่ยงลงทุนหุ้นในกลุ่มที่มีฐานธุรกิจในยุโรปไปก่อน โดยรอจุดเปลี่ยนสถานการณ์ในยุโรปที่เริ่มมีพัฒนาการบวกหรือความเสี่ยงน้อยลง หรือกรณีเริ่มสัญญาณบริษัทที่มีฐานธุรกิจในยุโรปปรับตัวรับมือความเสี่ยงได้มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากจีนล็อกดาวน์ หลังจากโควืดแพร่ระบาดมากขึ้นหลายเมือง