HoonSmart.com>> บล.คิงส์ฟอร์ด” แนะกลยุทธ์ Selective Buy กลุ่มอาหาร CPF, SNNP, NSL, ICHI ปัจจัยบวกบาทอ่อนค่า สื่อโฆษณา BEC, ONEE, VGI คาดกำไรฟื้นตัว เก็งกำไร U, PSL, GLOCON ด้านหุ้นเด่นชู NSL-MEGA
บริษัทหลักทรัพย์คิงส์ฟอร์ด ประเมิน SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,645 – 1,650 จุด แนวต้าน 1,665 – 1,670 จุด รอผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า แนะนำ Selective Buy กลุ่มอาหาร CPF, SNNP, NSL, ICHI ปัจจัยบวกบาทอ่อนค่า สื่อโฆษณา BEC, ONEE, VGI คาดกำไรฟื้นตัว เก็งกำไร U, PSL, GLOCON
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.10%,S&P500 +0.34%,Nasdaq +0.74% ได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +1%, Tesla +3.59% รับข่าวรัฐบาลให้งบ 900 ล.ดอลลาร์สร้างสถานีชาร์ต ดัชนีหุ้นสหรัฐฟื้นตัวรับ US PPI ส.ค. -0.10% MoM ตามคาดเป็นการลดลงต่อเนื่องในเดือนที่ 2 ช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อจากฝั่งผู้ผลิต ขณะที่ MBA เผยจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อจำนองสัปดาห์ที่ผ่านมา -1.2% หลังอัตราเงินกู้จำนองเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับ 6%
ตลาดหุ้นยุโรป Stoxxx600 -0.86% กลุ่มเหมืองแร่, อุตสาหกรรม, สินค้าอุปโภคบริโภคปรับลดลง จากความกังวล ECB ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ แต่ยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน +0.8%
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ NSL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.50 บาท) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H65 ยังเติบโตได้ต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวหลัง Reopening โดยยอดขายสินค้าเบเกอรี่ที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 90% ล้อไปตาม Traffic ของ 7-11 (นักเรียน พนักงาน Office และชาวต่างชาติ)
นอกจากนี้ยังมีการออกสินค้าใหม่และทำโปรโมชั่นผ่านช่องทาง Delivery ช่วยหนุนการขาย ประกอบกับมีการปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการเพื่อชดเชยต้นทุน แป้งสาลี เนื้อสัตว์ น้ำมันปาล์ม ค่าขนส่ง ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นทยอยปรับตัวดีขึ้นและน่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นใน 4Q65 ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 65 ที่ราว 260 ล้านบาท +36%YoY และปี 66 ที่ 313 ล้านบาท +20%YoY
หุ้น MEGA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 62.00 บาท) ประเมินแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังยังคงสดใส ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่อ่อนค่า และCovid-19 ส่งผลให้ ผู้บริโภคเกิด awareness มีความต้องการอาหารเสริมสูงขึ้น ขณะที่สินค้ายายังเป็นสินค้าจำเป็น(คาดว่ายอดขายในพม่าจะได้รับผลกระทบจำกัดจากการรัฐประหารเนื่องจากสัดส่วนยอดขายในพม่าของ MEGA เป็นยาราว80% )
ทางบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตราว +5 ถึง +10%YoY วางงบลงทุนในช่วงปี 65-66 ที่ 537 ล้านบาท (โรงงานที่ไทย 326 ล้านบาท / โรงงานที่อินโดนีเซีย 165 ล้านบาท ) สำหรับการขยายโรงงานและเสริมกำลังการผลิตเพื่อรองรับในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 ของ MEGA จะยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปี 64 ที่ 2.23 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 2.52 บาท/หุ้น, และ 2.73 บาท/หุ้น ตามลำดับ
